ราชทูต Topic /2
NPCชื่อ
ผู้บัญชาการคิรัคเจ้า​ได้​พบ​กับ​ราชทูต​แล้ว​เหรอ? นั่นแหละ​ที่​ข้าหวัง​อยู่ เขา​เป็น​ผู้​ที่​ลึกลับ​ยิ่ง​นัก แต่​เขา​ไม่​เคย​เตร็ดเตร่​ออก​ไป​ไกล​จาก​เขต​ของ​เขา เขา​รับใช้​และ​พิทักษ์​ผู้​ที่​ถูกเรียก​ว่า​เมเวน และ​เธอ​เป็น​เหตุ​ที่​แท้จริง​ที่​ข้า​ขอ​ให้​เจ้า​มา​ร่วมงาน​กับ​เรา เธอ​เป็น... สิ่งแสนทราม​อัน​แสนสยอง​ที่​คล้าย​กับ​เหล่า​ผู้​ที่​กำลัง​เดินทาง​มา​อยู่ เจ้า​อาจ​คิด​ว่า​ข้า​บ้า​ที่​จงใจ​ตาม​หา​เธอ แต่​เธอ​อาจ​เป็น​ผู้​เดียว​ที่​ช่วย​เรา​ได้ เจ้า​จะ​เข้าใจ​เมื่อ​เจ้า​ได้​พบ​กับ​เธอ

มี​อะไร​มืดมน​กำลัง​ใกล้​เข้ามา ผู้สังหารเทพ เรา​มี​เวลา​ไม่​มาก​นัก สำรวจ​สมุดแผนที่​ไป​เรื่อยๆ ไม่ว่า​ราชทูต​ปรากฏกาย​ที่ใด เมเวน​ย่อม​ไม่​อยู่​ไกล​จาก​ที่​นั่น
ผู้บัญชาการคิรัคเขา​ประหลาด​นัก เขา​ปรากฏกาย​ใน​ร่างมนุษย์... อย่าง​ไม่​ดี​นัก ข้า​ไม่รู้​ว่า​จะ​คิด​กับ​เขา​ยังไง เขา​ชอบ​บรรยาย​อะไร​อย่าง​คลุมเครือ แต่​ทุก​คำ​ที่​เขา​พูด​นั้น​มี​ความหมาย ข้า​แนะนำ​ให้​เจ้า​ฟัง​ให้​ดี เรา​ต้องการ​ข้อมูล​ให้​มาก​ที่สุด​ใน​การ​เอา​ตัว​รอด​ต่อ​ภัย​นี้
ราชทูต Text Audio /95
ชื่อ
จง​หยุด​แล้ว​สดับ​ฟัง​คำ​เตือน​เสีย นัก​พเนจร ​เม​เวน​มาแล้ว เธอมา​เป็น​สักขีพยาน​ต่อ​การ​ต่อสู้ของ​เจ้า เธอมา​เป็น​สักขีพยาน​ต่อ​การ​พิชิต​ของ​เจ้า เธอมา​เพื่อ​ให้เจ้า​ได้รับ​การ​ท้าทาย​แต่พอควร แม้​เจ้า​ปราชัย เจ้า​จัก​ไม่ม้วย​มรณ​า​อย่าง​สูญ​เปล่า

เธอกำลังรอเจ้าอยู่ นักพเนจร เธอมิได้มีชื่อด้านความอดทนเสียสักนิด
คำเตือน
เจ้า​ได้เรียก​เม​เวน​มา​สู่สถาน​แห่ง​นี้ ข้า​เอง​ก็​ได้ยิน​เช่นกัน เธอเข้า​มา​ใกล้ รอ​เป็น​พยาน​ต่อ​การ​ต่อสู้ของ​เจ้า​เต็มที
การท้าทาย
​เม​เวน​ได้มา​ถึง​อีก​ครา จาก​ฤทธา​สัญญาณ​เรียก​ของ​เจ้า จง​แสดง​ให้เธอได้เห็น​อย่าง​เพียง​พอ แล้ว​เจ้า​จัก​ได้รับคำ​เชิญ​สู่การ​ทดสอบ​ความ​กล้า​หาญ​อย่าง​แท้จริง

เจ้า​มิควร​ปฏิเสธ​คำ​เชิญ
คำเชิญ
สวัสดี นัก​พเนจร ข้า​เป็น​ผู้นำ​สาร​จาก​สถาน​มืด​มิด​แสน​ไกล ใน​ร่าง​ที่น่า​พึง​พอใจ​ต่อ​ผู้ที่ควร​รับ​ฟัง

เหล่า​ผู้ยิ่ง​ใหญ่อัน​ไกล​เกิน​เงื้อม​มือ​ผู้ใด​ได้สดับ​ฟัง​เสียง​ความ​เงียบ​งัน​อัน​กึกก้อง​จาก​ผู้ที่เคย​ออก​ล่า​ใน​แห่ง​นี้ พวก​มันได้จับ​จ้อง​สถาน​นี้เสีย​แล้ว จง​ปีติยินดีเถิด นัก​พเนจร เพราะ​เธอ​ผู้นี้ได้เข้า​มา​ใกล้ และ​เธอ​ประสงค์เป็น​สักขีพยาน​ต่อ​การ​ต่อสู้ของ​เจ้า
แนะนำตัว
ขอ​สิ่ง​ใด​ก็พึง​ระวังไว้​เถิด ​นักพเนจร​ ความ​ช่าง​สงสัย​นั้น​เป็น​คุณสมบัติ​อัน​น่า​หลงใหล​เพียง​ชั่ว​ครู่ เจ้า​จัก​ได้รับ​ข้อมูล​โดย​ความ​สมัคร​ใจ หาใช่​โดย​การ​ขู่เข็ญ ข้อมูล​เหล่า​นั้น​ย่อม​เป็น​บ่อ​เกิด​ของ​คำถาม​มากกว่า​คำ​ตอบ ท้าย​ที่สุด​ยาม​ที่เงา​พวกมัน​ทอด​ทับ​ทั่ว​เวหา ไม่ว่า​เจ้า​มีความ​กล้า​เสีย​เท่าไร เจ้า​ย่อม​มิอาจ​ปิด​กั้น​เสียง​กรีด​ร้อง​ใน​ใจ​ให้​เงียบงัน
เหล่าผู้ที่มันรับใช้
มัน​คืบ​คลาน​ตาม​สถาน​เหล่า​นั้น​ด้วย​ความ​หิวโหย​มิรู้สิ้น มัน​กระหาย​เหตุการณ์ใน​อดีต​และ​กัน​มิให้เหตุการณ์ได้พ้น​ผ่าน สมอง​เยี่ยง​เจ้า​ที่เปี่ยม​ล้น​ไป​ด้วย​ความ​คิด​กับ​ความ​ทรง​จำ​อัน​หมุนเวียน​รอบ​ตัว​เจ้า​เยี่ยง​ควัน​ย่อม​เป็น​เย้า​ยวน​เกิน​ทาน​ทน

มัน​มีหลาย​ต่อ​หลาย​นาม​อัน​ยิ่ง​ใหญ่ ผู้คลี่คลาย บุตร​แห่ง​การ​เสื่อม​สลาย ทว่า​เสียง​เพรียก​กระซิบ​จาก​ประวัติศาสตร์แห่ง​สถาน​นี้ได้ก้อง​สะท้อน​บังเกิด​เป็น​นาม​อื่น​แก่มัน เอลเด​อร์

มัน​รับ​ใช้เหล่า​อำนาจ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่เฉก​เช่น​ข้า อำนาจ​เหล่า​นั้น​ยัง​ดำเนิน​ต่อ​ไป แต่ไร้ซึ่ง​บริวาร บ้าน​เกิด​ไร้ผู้อาศัย ใน​กาล​นี้
เอลเดอร์
เป็น​เวลา​ชั่ว​นิรันดร์​ที่ความ​มืด​มิด​พอง​ไป​ด้วย​อาหาร​ตลอด​กาล แล้ว​ก็... บังเกิด​ความ​เงียบ​งัน ความ​เงียบ​งัน​นั้น​ดังสนั่น​ต่อ​ผู้​ที่สดับ​ฟัง หุบเหว​นั้น​ได้จับ​จ้อง​ไป​ยัง​ต้น​กำเนิด​ของ​มัน อาณาเขต​ที่เกิด​ขึ้น​ก่อน​รุ่งอรุณ​ได้​เคลื่อน​ซวนเซ ผู้อ้าง​สิทธิ์​ได้มา​ถึง เจ้า​คง​ทราบ​ถึง​ผู้นั้น เจ้า​คง​ต้องการ​ทราบ​สาเหตุ

เม​เวน​ประสงค์​ความ​ขัดแย้ง​ใหม่ เธอ​หน่าย​ต่อ​ดิน​แดน​ที่เธอ​ได้รับ เธอ​มิใช่​เพียง​ผู้เดียว ความ​เงียบ​งัน​นั้น​ดัง​กึกก้อง​ต่อ​ทุก​ผู้

เจ้า​หวาด​กลัว​ต่อ​เม​เวน เจ้า​หวาด​กลัว​ว่า​เธอ​จัก​เป็น​เอลเดอร์​ที่กลับ​มา​กล้า​แกร่ง เธอ​จัก​เป็น และ​เธอ​จัก​มิเป็น

เม​เวน​มิได้​รับใช้​ความเสื่อมสลาย เธอ​รับ​ใช้เพียง​ความ​อภิรมย์​ของ​เธอ ผ่าน​เวลา​ชั่ว​นิรันดร์​ด้วย​การ​ต่อสู้​ดิ้นรน​อัน​ไร้​ความ​หมาย​ที่​มิ​จบ​สิ้น

เธอ​หา​ใช่​เอลเดอร์ แต่เจ้า​สมควร​กลัว​เกรง​เธอ
เมเวน
เรา​ต่าง​มา​จาก​เนื้อ​เดียวกัน แต่มีสอง​จิต สอง​กาย เรา​เป็น​ญาติ​ผู้กำเนิด​จาก​ความ​ว่าง​เปล่า​อัน​โกลาหล​ที่​พัวพัน แต่เรา​มิได้​มี​ผู้สร้าง​เดียวกัน เธอ​เป็น​ผู้คุม​ของ​ข้า​ เป็น​ที่คุม​ขัง​ของ​ข้า ข้า​เป็น​ผู้คุ้มครอง​เธอ​ เป็น​บริวาร​เธอ
เมเวน
พวก​มัน​สู้ด้วย​ความ​ป่า​เถื่อน​เพื่อ​คุ้มครอง​ต้นไม้​ที่​อุ้ม​รัง​ของ​พวก​มัน​ บัดนี้​ป่า​มอด​ไหม้ ควัน​ไฟ​ลอย​ละ​ล่อง​ตาม​อากาศ ปีก​กระพือ​พัด​ของ​พวก​มัน​ทำได้เพียง​เรียก​เพลิง​เข้า​มา​ใกล้ เพลิง​กำลัง​มา​ถึง นักพเนจร เพลิง​จะ​กลืน​กิน​เรา​ทุก​คน​เสีย​สิ้น
เพลิง
เจ้า​คิด​ว่า​เจ้า​กำลัง​สำรวจ​ขอบเขต​ของ​การ​ดำรง​อยู่ ทว่า​เจ้า​เป็น​เพียง​แมลง​ที่สำรวจ​รอย​ร้าว​บน​หิน​ดึกดำบรรพ์ ณ จุด​ที่เจ้า​ยืน มิอาจ​เห็น​ป่า​หิน​ไร้ชีวิต​ที่ล้อม​รอบ​เสีย​สัก​นิด

มัน​โหยหวน นัก​พเนจร มัน​ร่ำไห้ โหยหวน ร้อง​หา​สักขีพยาน
ความเขลา
เหล่า​ผู้ที่ข้า​รับ​ใช้​ได้​ทอด​สายตา​ไป​ยัง​ขอบ​ฟ้า​ไร้การ​แปร​เปลี่ยน​อัน​มิสิ้น​สุด มิเคย​มี​เหตุ​ให้มอง​ไป​ทาง​อื่น เมื่อ​ไร้การ​แปร​เปลี่ยน เวลา​ย่อม​ผ่าน​ไป​ดั่ง​หยาด​น้ำตา​ใน​สายน้ำ มัน​มิอาจ​ถูก​พบเห็น ไร้ค่า ไร้​ความหมาย​ต่อ​ผู้ที่ไม่มีจุด​กำเนิด​และ​จุดจบ

แต่แล้ว​ความ​เงียบ​งัน​ก็มา​ถึง มัน​ดังสนั่นแก่พวกมัน ทำให้สายน้ำ​ถูก​ขัด​ขวาง พวก​มัน​มิอาจ​มอง​เห็น​สิ่ง​ใด มิอาจ​ได้ยิน​สิ่ง​ใด
ความเงียบงัน
ผู้ถูก​สร้าง​บังเกิด​ผู้ถูก​สร้าง​บังเกิด​ผู้ถูก​สร้าง ระเบียบ​กับ​ความ​ทะเยอทะยาน​เร่ง​ให้เกิด​ความ​ก้าวหน้า เวลา​กับ​การ​เน่า​สลาย​คุม​ความ​ก้าวหน้า ต้น​กำเนิด​ของ​เธอ​ประสงค์ทดสอบ​ขีด​จำกัด​ของ​พลัง​อัน​ไร้ขีด​จำกัด ประสงค์รับ​ภาระ​ของ​ผู้สร้าง​แล้ว​แหวก​ว่าย​ไป​ตาม​หล่ม​กาล​เวลา เป็น​อุปสรรค​อัน​ไร้ความ​หมาย​ท่ามกลาง​เวลา​ชั่ว​นิรัน​ดร์ แต่​ความ​เงียบงัน​นั้น​ดังสนั่น​แก่​ทุกผู้
ต้นกำเนิดของเธอ
เรา​ถูก​ถัก​ทอ​จาก​ใย​ของ​ดวงดาว​อัน​ดับ​สูญ​ใน​ภาพ​ของ​มัน เพื่อ​รับ​ภาพ​ของ​เหล่า​ผู้ต้อง​ได้ยิน​สาร​ของ​มัน ข้า​พยายาม​จดจำ​รูป​ร่าง​ของ​มัน​แล้ว​ก็มิอาจ​จำ ข้า​พยายาม​กลับ​ไป​สู่อดีต​ก็มิอาจ​กลับ ข้า​ถูก​เจ้า​เหนี่ยว​รั้ง​เอา​ไว้ นัก​พเนจร ตัวตน​ของ​เจ้า​กับ​หน้าที่​ของ​ข้า​ต่าง​กลบ​ข้า​จน​สิ้น ใย​เหล่า​นั้น​ก็ถูก​ถัก​ทอ​ต่อ​ไป​อยู่​เบื้อง​บน​นั้น ดั่ง​งูใหญ่แหวก​ว่าย​ไป​ตาม​ผิว​มหาสมุทร
รูปร่าง
เธอ​ฉงน​กับ​ตัว​ตน​ของ​เธอ​แต่แรก​เริ่ม มี​บทเรียน​หนึ่ง​ที่เร้น​กาย​ใน​ทุก​สิ่ง​ที่เคลื่อนไหว​กับ​ทุก​สิ่ง​ที่มิเคลื่อนไหว อะไร​เป็น​สิ่ง​ที่แยก​ทั้ง​สอง​สิ่ง​นี้ออก​จาก​กัน​เล่า​? ทำไม​มัน​เคลื่อนไหว​? ทำไม​มัน​มิเคลื่อนไหว​? เธอ​พบ​ว่า​ชีวิต​เป็น​คำ​ตอบ​ของ​ความ​แตก​ต่าง​นี้ แต่เธอ​เคลื่อนไหว และ​เธอ​มิอาจ​มิเคลื่อนไหว เพราะ​มัน​เป็น​หน้าที่ของ​ข้า เธอ​มีชีวิต​ไหม​? เธอ​มิทราบ​คำ​ตอบ และ​ข้า​ก็มิอาจ​ให้​คำตอบ​เธอ​ได้
คำถามของเธอ
เธอ​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เยาว์วัย​กับ​ชีวิต​ชีวา ทุก​สิ่ง​ถือ​เป็น​สิ่ง​ใหม่สำหรับ​เธอ เธอ​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​ช่าง​สงสัย​เสมือน​เด็ก​ที่มีชีวิต​ชีวา​และ​น่า​อ่อน​ล้า พวก​มันตา​มหา​ของ​แปลก​ใหม่จาก​หลาก​หลาย​สถาน​อัน​แสน​ไกล​ตาม​ที่เธอ​ปรารถนา แต่ทำ​เช่น​ไร​ความ​สงสัย ความ​ปรารถนา​ความ​ขัด​แย้ง กับ​การ​แข่งขัน​ของ​เธอ​ก็มิอาจ​สิ้น​ลง
ความช่างสงสัยของเธอ
พวก​มัน​ร่ำ​หา​น้ำนม​ของ​มารดา พวก​มัน​ร่าย​รำ​ด้วย​ความ​ปีติยินดีภาย​ใต้ฝน​ที่หล่อ​เลี้ยง สำลัก​ใน​ถุง​น้ำ​คร่ำ​อันพัวพัน แต่ละ​คน​ต่าง​สิ้นชีพ​เพราะ​ดิ้นรน​เอา​ตัว​รอด​โดย​เห็น​แก่ตน​เพียง​ลำพัง
การเอาตัวรอด
บาง​ครา​ข้า​ริษยา​เจ้า​นัก นัก​พเนจร เจ้า​กระทำ​ใน​นาม​การ​เอา​ตัว​รอด เจ้า​เคลื่อน​ด้วย​เจตนา​การ​ปกป้อง​การ​มีอยู่อัน​แสน​บอบบาง จิตใจ​เจ้า​ถูก​รุกราน​ด้วย​ความ​เป็น​จริง​ว่า​เจ้า​เป็น​เพียง​ฝุ่น​ผง​ท่ามกลาง​ทะเล​ทราย​อัน​มิรู้สิ้น ทว่า​จิตใจ​นั้น​ใช้ความ​หวัง​ใน​การ​ปกป้อง​ตัว​มัน​เอง ความ​หวัง​อัน​เป็น​ความ​คิด​ลวง​หลอก​แสน​บอบบาง​ที่หยุด​ยั้ง​ความ​เป็น​จริง​อัน​แสน​สิ้น​หวัง​ได้เฉก​เช่น​เดียวกัน
การหลงผิด
เม​เวน​จดจ่อ​กับ​การ​ดิ้นรน​และ​ความ​ทุกข์ทรมาน ซึ่ง​มัน​ได้ก่อ​ความ​ทุกข์ระทม​จน​ไหล​ซึม​ลึก​เข้าไป​สู่รากฐานของ​ความ​ว่าง​เปล่า อิทธิพล​ความ​ทุกข์ระทม​แทรกซึม​ไป​ทุก​ที่อย่าง​ไร้การ​พบเห็น ทุก​พื้นที่อัน​ว่าง​เปล่า​เต็ม​ไป​ด้วย​กับ​ความ​ทรมาน​มิรู้จบ​จาก​น้ำมือ​เม​เวน เจ้า​สัมผัส​ถึง​ความ​ทุกข์ระทม เจ้า​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​ทุกข์ระทม เจ้า​รักษา​ความ​ทุกข์ระทม​ไว้
การทำให้เป็นถาวร
ข้า​พบ​การ​เอา​ตัว​รอด​อย่าง​จน​ตรอก​อัน​โหด​เหี้ยม​ภายใน​นัก​พเนจร เฉก​เช่น​ที่ข้า​เคย​พบ​ใน​มวล​ดำ​ที่กัด​กิน​ตลอด​กาล สัญชาตญาณ​มัน​นำ​มัน​ได้มา​ไกล​เพียง​นี้ และ​มัน​ทำ​ถูก​ที่เชื่อ​ใจ​พวก​มัน แต่มัน​ได้ร่อน​เร่มา​สู่​สถาน​ที่​ที่​มัน​มิ​อาจ​พึ่งพา​สิ่ง​ที่มัน​เรียน​รู้ได้เสีย​อีก ณ สถาน​ที่ความ​จริง​กับ​ความ​โกหก​อาจ​อาศัย​ใน​พื้นที่เดียว ใน​คำ​เดียว ใน​ความ​คิด​เดียว ผู้สังเกตการณ์กับ​ผู้ถูก​สังเกตการณ์กลาย​เป็น​หนึ่ง
ไกลหาใดเทียบ
ข้า​เคย​นึก​ว่า​ข้า​ต่าง​จาก​ภาพ​สะท้อน​มาก​เหนือ​คณา​นับ​ที่สลัก​ไว้ใน​ความ​มืด​มิด ข้า​เคย​นึก​ว่า​ข้า​เป็น​ไท พวก​มัน​ไม่ พวก​มัน​ต่าง​มีความ​คิด​เดียว พวก​มัน​ต่าง​สัญจร​ตาม​ทาง​เดียว และ​พวก​มัน​แต่ละ​ตน​มีชะตา​เดียว แต่ข้า​มิใช่พวก​มัน ข้า​ย้ำ แล้ว​สดับ​ฟัง​เสียง​สะท้อน​ของ​มัน​ไป​ตลอด​กาล
ผู้โง่งม
ครั้ง​หนึ่ง​เคย​มีกาล​เวลาก่อน​กาลเวลา หรือ​อาจ​มีกาลเวลา​ก่อน​หน้า​นั้น จาก​คำ​ที่มัน​พร่ำ​บอก​เรา กาล​เวลาอัน​เปี่ยม​ความ​เป็น​ไป​ได้มากมาย​อัน​ราย​ล้อม​ด้วย​การ​ต่อ​ล้อ​ต่อ​เถียง​อัน​ไร้ค่า ความ​มั่นคง​กวาด​ไป​ทั่ว​ดั่ง​ม่าน​หมอก ทุก​ผู้ภาย​ใต้เงา​ของ​มัน​จึง​สงบ​ลง ถูก​ปลอบโยน ถูก​ขับ​กล่อม​สู่นิทรา
วงรอบ
แล้ว​กาล​เวลา​ที่กาล​เวลา​ลา​จาก​เรา​ก็มา​ถึง มิมีสิ่ง​ใด​พ้น​ผ่าน เพราะ​การ​พ้น​ผ่าน​กับ​กาล​เวลา​จำ​ต้อง​ร่วม​ร่าย​รำ​ไป​ด้วย​กัน มด​ใน​รังกลาย​เป็น​ฝูง เพิ่ม​จำนวน ตาย​ลง​และ​กำเนิดใหม่ ทว่า​ความ​เป็น​จริง​นั้น​มิมีสิ่ง​ใด​แปร​เปลี่ยน เรา​มอง​มด​ด้วย​ความ​ริษยา เป็น​การ​หลับ​ใหล​ระคน​ตื่น​ใน​ภวังค์
ภวังค์ระคนตื่น
ดวงดาว​จับ​จ้อง​ด้วย​ความ​ริษยา​เมื่อ​ชีวิต​รุกราน​และ​กลืน​กิน​สิ้น​ทุก​พื้นที่ วัฏจักร​กำเนิด​และ​ตาย​อัน​เกิด​ขึ้น​เป็น​พลวัต​และ​เป็น​จังหวะ​ทัดเทียม​กัน ขณะ​ที่ดวงดาว​มอด​ไหม้มิสิ้น​และ​มิแปร​เปลี่ยน​ใน​ชั่ว​ชีวิต​มาก​มาย​เกิน​คณา​นับ นิรัน​ดร์ถือเป็น​ความ​แน่นิ่ง ความ​แน่นิ่ง​ถือเป็น​ความ​ทรมาน
ความแน่นิ่ง
เวลา​ล่าม​ทุก​ชีวิต​สู่ปลาย​ทาง​เดียว​ดั่ง​สุนัข​ร้าย​ใน​สาย​รั้ง ทว่า​พวก​มัน​วิ่ง​ไป​ด้วย​ความ​ยินดี ด้วย​ศรัทธา​ว่า​นาย​พวก​มัน​มีประสงค์ดีต่อ​พวก​มัน​เสมอ
ปลายทาง
ข้า​ตาม​เธอ​แม้ข้า​มิประสงค์ ข้า​เห็น​ชั่ว​ขณะ​หนึ่ง​อัน​แสน​สั้น​ราวกับ​หนึ่ง​ชั่วชีวิต​ที่​ข้า​สามารถ​ร่อน​เร่โดย​มิหวน​คืน แต่ข้า​มิได้ฉวย​โอกาส​นั้น ความ​คิด​ข้า​เป็น​ไท เตลิด​และ​ร่าย​รำ​อย่าง​เสรี ทว่า​ร่าง​ข้า​ติด​บ่วง​และ​ถูก​ล่าม​
ถูกตรึง
ผู้ถูก​กำจัด​ร่ำ​รอ​กาล​แห่ง​ชัยชนะ​จม​สู่ภาย​ใต้สุรเสียง​ความ​ทรง​จำ ปราสาท​กระดูก​กับ​ดิน​เหนียว​กุม​หฤทัย​มิหยุด​เต้น​ด้วย​ความ​เร้น​ลับ​ยิ่ง ร่ำ​รอ​ยุค​การ​สูญ​เสีย​และ​กำเนิด​ใหม่ใน​อนาคต
ผู้ถูกกำจัด
ข้า​เคลื่อน​สายตา​ไป​สู่ภูเขา​เพลิง​กับ​แสง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่ และ​จับ​จ้อง​มัน​คลี่คลาย​และ​ถูก​กลืน​กิน​โดย​ท้องฟ้า​มืด​ดำ​จาก​เบื้อง​บน ข้า​ได้ยิน​เสียง​ร้อง​ประสาน​ของ​ความ​มืด​มิด​ยาม​ที่มัน​ดื่ม​จน​เอิบ​อิ่ม เหลือ​โลก​เบื้อง​ล่าง​ไว้เพียง​เปลือก​อัน​เยือก​แข็ง​ไร้ชีวิต พวก​มัน​ได้มอบ​ของ​ขวัญ​ให้แก่ข้า​ผู้เป็น​บริวาร​นิรันดร์ ใน​การ​เดิน​ตาม​ผู้วางวาย​มาก​มาย​เหนือ​คณา​นับ​ผู้กรีด​ร้อง​อย่าง​เงียบ​งัน และ​เป็น​สักขีพยาน
การสิ้นสลายของกายหยาบ
ข้า​เดิน​เหิน​ผ่าน​หุบเขา​แห่ง​ซาก เหยียบ​ย่ำ​กระดูก​ดึกดำบรรพ์ของ​ข้า​เอง เดิน​ย้อน​ตาม​รอย​เท้า​ข้า​เอง สดับ​ฟัง​เสียง​ข้า​ก้อง​สะท้อน​ไป​ตาม​เหล่า​กำแพง​หิน ข้า​ทราบ​ถึง​คำ แต่ข้า​มิทราบ​ความ​หมาย ทราบ​เส้น​ทาง แต่มิทราบ​ทาง​ที่นำพา ทราบ​ว่า​ข้า​ได้สัญจร​มา​สู่เหตุการณ์ที่ยัง​มิเคย​ดำเนิน
เดินเหินเพียงลำพัง
ข้า​สัมผัส​ถึง​เชือก​ล่าม​รัด​แน่น ดึง​ไป​สู่ปลาย​ทาง​ดำ​สนิท ข้า​ไขว่คว้า​ทุก​สิ่ง​ที่จะ​ช่วย​กัน​มิให้ข้า​ถูก​ดึง​อย่าง​อ่อน​โยน แต่ทุก​อย่าง​ที่ข้า​เหนี่ยว​รั้ง​ต่าง​หลุด​ลอย​ไป ข้า​เป็น​ผู้เดียว​ที่จะ​ถูก​ดึง​ไป​สู่เบื้อง​ล่าง ข้า​ถูก​ดึง​กลับ​ลงไป แล้ว​ถูก​ผลัก​สู่แสง​สว่าง​อัน​แสบ​สัน เหล่า​ผู้ที่ข้า​รับ​ใช้มิยอม​ให้ข้า​ได้หยุด​พัก​เกิน​ชั่ว​ขณะ​เดียว
ไร้ที่สิ้น
ข้า​จับ​จ้อง​การ​พ้น​ผ่าน​ของ​นัก​พเนจร​ด้วย​ความ​ยกย่อง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่ มัน​มีชีวิต​อัน​แสน​สั้น​และ​ไร้ผล​สืบ​เนื่อง การ​ต่อสู้ของ​มัน​เป็น​เชื้อ​ไฟ​ต่อ​การ​เติบโต​และ​เติบ​ใหญ่ของ​ผู้ฉลาด​และ​เป็นนิรันดร์ ใน​ช่วง​เวลา​เพียง​ชั่ว​อึดใจ ข้า​สัมผัส​ได้ถึง​ความ​โศก​สลด​ที่ข้า​ถวิลหา​ยาม​เยาว์วัย กับ​ความ​โล่ง​ใจ​ที่ข้า​มิถวิลหา​มัน​อีก​ต่อ​ไป
ความโศกสลดแต่กาลก่อน
ร่าง​มัน​บิด​เบี้ยว​อย่าง​ไร้น้ำ​หนัก​ใน​ความ​ว่าง​เปล่า​ไพศาล หมุน​พลิก แบ่ง​กระจาย และ​สลัก​รอย​แผล​ไว้ใน​ความ​มืด​มิด แสง​สว่าง​ลอด​ผ่าน​รอย​แยก ติดตาม​ไป​ด้วย​กองทัพ​จำนวน​มาก พวก​มัน​ประกาศ​กร้าว​ให้ถูก​พบเห็น​และ​ถูก​ล้าง​บาป​โดย​โลกันตร์อัน​มีชีวิต
รอยแยก
ข้า​มา​สู่ปราการ​แห่ง​เลือด​เนื้อ​อัน​สูงส่ง​ใกล้ชิด​ดวงดาว เหล่า​ผู้ตาม​รอย​เท้า​ข้า​มิได้หยุด พวก​เขา​ผลัก​ข้า​เข้า​สู่กำแพง​อุ่น ข้า​ถูก​บีบ​อัด​และ​ถูก​ถาโถม​ทั้ง​เป็น​จาก​เหล่า​ผู้ตาม​ของ​ข้า ข้า​ถูก​ต้อนรับ​สู่อ้อมอก​ของ​เขา
ปราการ
ข้า​ถูก​นำสู่ความ​มืด​มิด ได้รับ​คบ​เพลิง​ที่ลุก​ไหม้ไป​ด้วย​ความ​เดือดดาล​เพื่อ​นำ​ข้า​ไป​สู่เธอ ข้า​สัมผัส​ได้ถึง​การ​ดึง​ของ​เธอ ข้า​สัมผัส​ถึง​เพลิง​ที่ลุก​โชน โลม​เลีย เฆี่ยน​ตีใบหน้า ข้า​ถูก​กลืน​กิน​จาก​การ​เดิน​ทาง เหลือ​เพียง​เปลือก​อัน​กลวง​เปล่า​ที่ได้รับ​บัญชา​ให้ปกป้อง​เธอ จำกัด​เธอ และ​มิทิ้ง​เธอ​ไป​ไหน ซึ่ง​จะ​เป็นการ​ลงโทษ​ของ​ข้า​อัน​หา​ใด​เทียบ
บทลงโทษ
แต่ละ​คืน​ความ​เงียบ​งัน​มา​ถึง ต้อน​เอา​ความ​คิด​การ​ลา​จาก​ไป​สู่ทะเล​อัน​ดำ​สนิท ข้า​จับ​จ้อง​ความ​หวัง​ของ​ข้า​จมลง จับ​จ้อง​พวก​มัน​ถูก​ซัด​สู่ชายฝั่ง​อย่าง​ไร้ชีวิต ประดับ​หาด​ทราย​หยาบ​ไว้ราวกับ​เสื้อผ้า​ที่ถูก​สลัด​อย่าง​ไม่ใย​ดี
ความทุกข์ระทม
เธอ​พยายาม​หลบ​หนี พยายาม​ออก​ไป​จาก​เกาะ​เรือน​จำ​ที่เธอ​สร้าง​ขึ้น​มา​เอง เธอ​กัดฟัน หมุน​กรง​เล็บ​ราวกับ​นัก​เต้น​ต่อ​ดนตรีที่ข้า​มิได้ยิน ทว่า​กำแพง​เรือน​จำ​นั้น​ช่าง​สูงส่ง เต็ม​ไป​ด้วย​ทหาร​ยาม​อัน​เงียบ​งัน​ผู้มีหอก​อัน​แหลมคม​เสีย​จน​สามารถ​ทะลุเงา​ของ​เธอ​
ความกระวนกระวายของเธอ
ความ​เงียบ​งัน​อัน​ยิ่ง​ใหญ่มา​ถึง​กะทันหัน​อย่าง​ไร้คำ​เตือน มัน​ดัง​เสีย​จน​ทุก​ผู้มิอาจ​ได้ยิน กำแพง​ยัง​อยู่สูง แต่มัน​หลุด​ลุ่ย​บิด​งอ​จาม​สัมผัส​ของ​เธอ เธอ​หลบ​หนี ทำให้หลาย​ผู้เหนือ​คณา​นับ​หลบ​หนีตาม​ไป​ด้วย คำ​เชิญ​นั้น​ชัดเจน​และ​มิอาจ​ปฏิเสธ​ได้ มัน​ดัง​สนั่น​แก่ทุก​ผู้ เรา​มิอาจ​มอง​ไป​ทาง​อื่น
การหลบหนีของเธอ
หน้าที่นั้น​เป็น​พร​แก่ผู้มีเคราะห์ดี แก่ผู้ที่ดวง​ชะตา​ถูก​หยิบ​ยื่น​แก่​ผู้กำหนด​ชะตา เรา​กระทำ​อย่าง​มิลังเล​และ​มิคาด​คิด​ต่อ​การ​พึมพำ​ของ​ผู้คุ้ม​แสง แม้น​เขา​ส่อง​เส้น​ทาง​ให้สว่าง เรา​มิเห็น​แสง​นั้น และ​มิต้อง​เห็น​แสง​นั้น การ​มอง​เบื้อง​หน้า​จัก​ทำให้สลาย​เป็น​ผุยผง​แก่แสง
ผู้คุ้มแสง
ข้า​พยายาม​นับ​เหล่า​ผู้ตาม​เธอ​เลย​ไป​จาก​สิ่ง​ที่กีดขวาง แต่มิมีผู้ใด​หลุด​พ้น​ เหล่า​ผู้หลุด​พ้น​ต่าง​กลาย​เป็น​สลาย​เป็น​ผุยผง​แก่แสง นี่เป็น​หน้าที่ของ​ผู้เดียวใน​การ​เฝ้า​ระวัง​ขณะ​เหตุกำเนิด​เกิด​ขึ้น และ​เหล่า​สรรพ​สิ่ง​ที่ดิบ​และ​ไร้รูป​ร่าง​ถูก​หลอม​ด้วย​ความ​ร้อน​แห่ง​กาล​เวลา​ที่พ้น​ผ่าน การ​ลง​ทัณฑ์ของ​ข้า​นั้น​รอดพ้น​ได้ยาก​ยิ่ง
ความพิโรธของผู้คุ้มแสง
สัญญา​ของ​นัก​ฝัน​สำเร็จ​สิ้น แม้น​เรา​มิรู้ก็ตาม เขา​มา​ถึง​ใน​ครา​แรก​เป็น​เสียง​กระซิบ​ใน​จิตใจ หาก​พูด​เสียง​นั้น มัน​จัก​รวบรวม​ความ​คิด​อื่น​ทั้งหมด​จน​เสีย​สิ้น ทว่า​นิรันดร​จัก​ผ่าน​พ้น​ก่อนเรา​ได้สัมผัส​เพลิง​ของ​เขา
นักฝัน
ความ​ว่าง​เปล่า​ร้าว​ดั่ง​น้ำ​แข็ง มวลสาร​อัน​โกลาหล​มากมาย​ฝ่า​รอยร้าว​เพื่อ​จารึก​การ​มีอยู่ด้วย​ความ​โหด​ร้าย​ที่อยู่​ใน​ทุก​การ​ต่อสู้เพื่อ​ชีวิต กระทั่ง​ดวงดาว​ก็เลือน​หาย​ไป​จาก​เหล่า​อวัยวะ​ไขว่คว้า​กับ​ปาก​ที่​กรีด​ร้อง​พัวพัน​กัน​จำนวน​มหาศาล ทว่า​มิมีผู้ล่า​ใด​เว้น​แต่เหล่า​ผู้เร้น​กาย​ใน​เงามืด​ของ​ทุก​จิต​ผู้กำเนิด​ใหม่
อำนาจพัวพัน
ความ​แน่นิ่ง​อัน​นิรัน​ดร์ถูก​แทนที่ด้วย​การ​เคลื่อนไหว​ดั่ง​คลื่น​ยักษ์ ตา​กับ​ฟัน​สะท้อน​แสง​เพียง​น้อย​นิด​ราวกับ​หมู่ดาว​ที่โกรธ​เกรี้ยว​และ​หิวโหย ราวกับ​เกิด​ขึ้นกะทันหัน แต่ข้า​มิแน่ใจ​นัก กาล​ก่อน​นั้น​มิมีความ​หมาย​และ​ไร้ร่อง​รอย​ใดๆ
การเคลื่อนไหว
ดวงตา​ที่อาศัย​ตาม​หมู่ดาว​แต่ละ​ดวง​ต่าง​ลุก​โชน​ไป​ด้วย​ริษยา​และ​ปรารถนา ต่าง​หมุน หันเห และ​มุ่ง​ไป​ยัง​สถาน​แห่ง​นี้ มัน​เป็น​ต้นตอ​แห่ง​ความ​เงียบ​งัน เป็น​จุด​เริ่ม​ต้น​ของ​จุด​เริ่ม​ต้น จุด​ที่สิ่ง​ที่ร่อน​เร่และ​กัด​กิน​อย่าง​ไม่สิ้น​นั้น​สลาย​ไป
การจับจ้องเหนือคณานับ
ล่าม​มัด​พวก​มัน​แล้ว ขณะ​ที่พวก​มัน​ตื่น​ขึ้น​จาก​นิทรา​ไร้ฝัน พวก​มัน​ต่าง​ถูก​ดึง​ด้วย​ล่าม​แห่ง​ปรารถนา สิ่ง​ที่ร่ำ​รอ​พวก​มัน​คือ​ปม​อัน​พัวพัน เงื่อน หรือ​บ่วง​หาก​ผู้ใด​โชค​ดี ผู้คุ้ม​ฝัน​ทำได้เพียง​ยืน​ทอด​แสง มอง​ล่าม​เหล่า​นั้น​พัวพัน​พวก​มัน​ทุก​ผู้
การล่มสลายของความเรียบร้อย
บัดนี้ม่าน​ถูก​เปิด​ออก เผย​สนิม​แห่ง​นิรันดร์กาล ความ​ว่าง​เปล่า​ชักจูง​พวก​มัน​เข้าไป​อย่าง​มิพร้อม​และ​มิเจตนา สนิม​ลอก​คราบ​ใน​คลื่น​แห่ง​การ​ปรับ​ตัวอย่าง​ดื้อ​ดึง ทั้ง​โกรธ ฉงน ฉุนเฉียว​ง่าย ทั้งหมด โลภ จน​ตรอก และ​มีชีวิต​ขึ้น​มา​ใหม่
ฟื้นคืน
ยาม​ที่ปราการ​เคย​ตั้ง​ตระหง่าน​อัน​เป็น​นิรัน​ดร์อย่าง​มิไหว​ติง มิบิด​เบี้ยว เที่ยง​ตรง บัดนี้เลือด​เนื้อ​ขด​ตัว​แล้ว​สละ​การ​ยึด​หิน​นี้ ปราการ​นี้ถูก​เหวี่ยง​ออก​ไป​สู่ทะเล​ความ​มืด​มิด​มหาศาล ชน​และ​ตกลง​ไป​ตาม​ทาง ดึงและ​ก่อ​ทาส​ต่อ​ทุก​ผู้ใน​เส้น​ทาง มัน​จัก​มา​ถึง แม้น​ข้า​มิรู้ว่า​จะ​เป็น​ยาม​ใด​หรือ​เยี่ยง​ไร
ความหิวโหยของปราการ
บัดนี้มัน​เฉือน​ผ่าน​ดวงดาว​และ​ไหล​สู่ความ​เงียบ​งัน คว้า​ที่รากฐาน​แล้ว​ผูกมัด​ทุก​ผู้ ดึง ถู และ​ฉีก​ราวกับ​เคียว​ที่เก็บ​เกี่ยว มัน​มิได้เพ่นพ่าน​ตาม​ความ​ว่าง​เปล่า​อีก​ต่อ​ไป มัน​เคลื่อนไหว​โดย​เป้า​หมาย ทิศทาง และ​เจตนา มัน​ทำให้ข้า​เกรง​ขาม กลัว และ​ปรารถนา เจ้า​สัมผัส​ได้เช่น​กัน​ไหม นัก​พเนจร​?
ผู้ที่ควรกลัวเกรง
เจ้า​บังคับ​ให้แทรกแซง นัก​พเนจร เจ้า​ได้พิสูจน์ว่า​เจ้า​แข็งแกร่ง เจ้า​ได้พิสูจน์ว่า​เจ้า​เขลา​นัก

เมเวน​เป็น​เพียง​เด็ก​หัด​เดิน ดักแด้ ตัว​อ่อน​ผู้เตลิด​ไป​ไกล​จาก​รัง หาก​ข้า​ยอม​ให้เจ้า​ดำเนิน​ต่อ​ไป มัน​ย่อม​เรียก​หา​แหล่ง​กำเนิด​ของ​มัน หาก​ข้า​ยอม​ให้เจ้า​ดำเนิน​ต่อ​ไป เจ้า​ย่อม​ดึง​ทุก​ผู้ไป​สู่ปาก​อัน​เปิด​กว้าง​ของ​มัน​เป็น​แน่แท้

เมเวน​จำ​ต้อง​ต้อง​ถูก​พิทักษ์และ​คุ้มครอง​เพื่อ​เป็น​เมตตา​แก่พวก​เจ้า​ทั้ง​สอง จุดจบ​นั้น​เลื่อน​ถอย​แต่มิได้สิ้น​ไป ขอ​ให้เจ้า​จง​สำราญ​ไป​กับ​กาล​ที่เหลือ​ของ​เจ้า​เถิด ขอ​ให้เจ้า​จง​เตรียม​พร้อม​ต่อ​การ​มา​ถึง​ของ​มัน​เถิด
EnvoyMavenDefeatedOnce
เด็ก​ย่อม​ทำ​ตาม​อำเภอ​ใจ นัก​พเนจร ข้า​ขอ​เตือน​ไว้ ความ​ทรง​จำ​ของ​ความ​เจ็บ​ปวด​เล็ก​น้อย​ของ​เจ้า​จัก​เลือน​หาย​ไป​ใน​ไม่ช้า เช่น​เดียว​กับ​... ความ​สำนึก​ผิด​ของ​เธอ
EnvoyMavenDefeatedRepeated
เจ้า​บังคับ​ให้แทรกแซง นัก​พเนจร เจ้า​ได้พิสูจน์ว่า​เจ้า​แข็งแกร่ง เจ้า​ได้พิสูจน์ว่า​เจ้า​เขลา​นัก
EnvoyFinalConversationA
เมเวน​เป็น​เพียง​เด็ก​หัด​เดิน ดักแด้ ตัว​อ่อน​ผู้เตลิด​ไป​ไกล​จาก​รัง หาก​ข้า​ยอม​ให้เจ้า​ดำเนิน​ต่อ​ไป มัน​ย่อม​เรียก​หา​แหล่ง​กำเนิด​ของ​มัน หาก​ข้า​ยอม​ให้เจ้า​ดำเนิน​ต่อ​ไป เจ้า​ย่อม​ดึง​ทุก​ผู้ไป​สู่ปาก​อัน​เปิด​กว้าง​ของ​มัน​เป็น​แน่แท้
EnvoyFinalConversationB
เมเวน​จำ​ต้องถูก​พิทักษ์และ​คุ้มครอง​เพื่อ​เป็น​เมตตา​แก่พวก​เจ้า​ทั้ง​สอง จุดจบ​นั้น​เลื่อน​ถอย​แต่มิได้สิ้น​ไป ขอ​ให้เจ้า​จง​สำราญ​ไป​กับ​กาล​ที่เหลือ​ของ​เจ้า​เถิด ขอ​ให้เจ้า​จง​เตรียม​พร้อม​ต่อ​การ​มา​ถึง​ของ​มัน​เถิด
EnvoyFinalConversationC
เมเวน​เป็น​เพียง​เด็ก​หัด​เดิน ดักแด้ ตัว​อ่อน​ผู้เตลิด​ไป​ไกล​จาก​รัง หาก​ข้า​ยอม​ให้เจ้า​ดำเนิน​ต่อ​ไป มัน​ย่อม​เรียก​หา​แหล่ง​กำเนิด​ของ​มัน หาก​ข้า​ยอม​ให้เจ้า​ดำเนิน​ต่อ​ไป เจ้า​ย่อม​ดึง​ทุก​ผู้ไป​สู่ปาก​อัน​เปิด​กว้าง​ของ​มัน​เป็น​แน่แท้

เมเวน​จำ​ต้องถูก​พิทักษ์และ​คุ้มครอง​เพื่อ​เป็น​เมตตา​แก่พวก​เจ้า​ทั้ง​สอง จุดจบ​นั้น​เลื่อน​ถอย​แต่มิได้สิ้น​ไป ขอ​ให้เจ้า​จง​สำราญ​ไป​กับ​กาล​ที่เหลือ​ของ​เจ้า​เถิด ขอ​ให้เจ้า​จง​เตรียม​พร้อม​ต่อ​การ​มา​ถึง​ของ​มัน​เถิด
EnvoyFinalConversationBC
พวก​มัน​... ใกล้​เข้า​มา
EnvoyRandomFinalSayingRandom
พวก​มัน​... ใกล้​เข้า​มา
EnvoyRandomFinalSaying2
พวก​มัน​... ใกล้​เข้า​มา
EnvoyRandomFinalSaying3
พวก​มัน​ก้าว​เข้า​มายัง​ดินแดน​นี้​เพื่อ​ท้าทาย​เมเวน พวก​มัน​รู้แจ้ง ​ไร้​เมตตา การ​ทำลาย​ล้าง​ของ​พวก​มัน​ย่อม​บังเกิด​ความ​ทุกข์​ทรมาน​ชั่ว​นิรันดร์

พลัง​ของ​พวกมัน​นั้น​สูงส่ง​ยิ่ง​กว่า​ขุนเขา​อัน​มิ​อาจ​พิชิต เจ้า​ย่อม​ไม่​อาจ​ทำให้​พวก​มัน​ผละ​หนี เมเวน​ยึด​ครอง​ที่นี่ มี​เพียง​เสียง​เธอ​เท่านั้น​ที่​อาจ​ทำให้​พวกมัน​หยุด​ชะงัก เกาะ​เธอ​ไว้​ให้​แน่น นัก​พเนจร แล้ว​นำ​ความ​หวัง​ทั้งหมด​ไป​กับ​การ​ดิ้นรน​เสีย
การมาถึงของพวกมัน
ทุก​ผู้​ภาย​ใต้​เงา​ของ​มัน​หลับ​ใหล​อยู่​ใต้​ม่าน​แห่ง​การ​คงตัว ไร้​การ​ทะเลาะ​ใดๆ ที่​เคย​เกิด​ขึ้น​แต่​ก่อน​กาล ความ​คงตัว​ได้​เหนี่ยวรั้ง​เหล่า​ผู้​ที่​ต้องการ​ยึดครอง​ดินแดน​ใหม่​ของ​เมเวน​เอา​ไว้​เช่น​กัน เพราะ​พวก​มัน​ไม่​คุ้นเคย​ต่อ​กัน​และ​กัน​เช่น​เดียว​กับ​ที่​ไม่​คุ้นเคย​ต่อ​เจ้า หาก​พวก​มัน​สามารถ​ก่อ​ความ​ขัดแย้ง​ได้ มัน​ย่อม​ทำให้​ห้วง​จักรวาล​ขาด​สะบั้น ความ​เป็น​ระเบียบ​ต้อง​อาศัย​การนำ​วีรชน​ผู้​มี​ชีวิต​มา​ประลอง​กัน​เป็น​เดิม​พัน เมเวน​จะ​ครอง​ที่​นี่​ได้​ก็​ต่อ​เมื่อ​มี​ชัย นักพเนจร อย่า​ให้​เธอ​ผิดหวัง​เป็น​อัน​ขาด
การดิ้นรน
ผู้​​กำหนด​ชะตา​มิได้​แบ่งปัน​ปัญญา​เกี่ยว​กับ​เส้นทาง​นี้ เสียง​พึมพำ​ของ​ผู้คุ้มฝัน​นั้น​มิได้​มี​ไว้​ให้​เรา​เข้าใจ เขา​ส่อง​สว่าง​แก่​เส้นทาง​เบื้อง​หน้า แต่​ดวงตา​ของ​เรา​จับ​จ้อง​อยู่​เบื้องล่าง​ทุก​ช่วง​ก้าว กำหนด​ช่วง​เวลา​ต่างๆ เป็น​ลำดับ​อย่าง​ไม่รู้จัก​เหน็ดเหนื่อย มี​เพียง​แหล่ง​กำเนิด​ที่​สามารถ​ทอด​สายตา​ไป​ยัง​เบื้อง​หน้า สร้าง​ความ​ทะเยอ​ทะยาน​ใหม่ๆ อย่าง​รวดเร็ว​ใน​ยาม​ที่​แสง​ทำให้​ความ​ทะเยอทะยาน​เก่า​กลาย​เป็น​ผุยผง ทว่า​กลับ​เกิด​แรง​ดลใจ​หนึ่ง​ขึ้น​มา​ใน​ความ​ขัดแย้ง​อัน​เย็น​เยือก ป่าเหมันต์​เติบโต​และ​ไม่​มอด​ไหม้ หา​ได้​เป็น​ปาฏิหาริย์ หา​ได้​เป็น​ของขวัญ หา​ได้​เป็น​จิต​ที่​ครุ่นคิด แต่​เป็น​สิ่ง​ที่​ควร​เป็น​เพื่อ​ให้​เกิด​การ​มี​อยู่
ความเรียบร้อย
สายลม​พร่ำ​ผ่าน​เสียง​กระซิบ​สี​เงิน ซึ่ง​เป็น​ที่​ล่วงรู้​เพียง​เล็กน้อย​ใน​บรรดา​เหล่า​ผู้​ลุ่ม​หลง​ไป​ตาม​หล่ม​นั้น ท้องฟ้า​เจือ​ไป​ด้วย​เสียง​กรีดร้อง​แห่ง​ความ​เจ็บปวด พวก​มัน​ร้อง​ตะโกน​ด้วย​ความ​ทุกข์ทรมาน​จาก​เบื้องลึก​ของ​อำนาจพัวพัน เพราะ​พวก​มัน​กลืนกิน​ตลอดกาล​และ​ถูก​กลืนกิน​ชั่วนิรันดร์ ความ​หิวโหย​ของ​พวกมัน​ไม่​อาจ​สิ้น​ลง มวลสาร​เสื่อม​รูป​ลาก​ตัวเอง​ไป​ทั่ว​ทั้ง​เวหา​เพื่อ​หาความ​สุขสม แต่ละ​อวัยวะ​เอื้อมหา​ต่าง​ทิศทาง แต่ละ​ปาก​ใฝ่​หา​การ​หลบหนี​ความเจ็บปวด​ต่างวิถี​อย่าง​สิ้น​หวัง พวก​มัน​ถูก​ถาโถม​อย่าง​หนัก​จน​ไม่​อาจ​คำนึง​ถึง​เจตนารมณ์​ของ​แหล่ง​กำเนิด​หรือ​ผู้​อื่น​ใด
อำนาจพัวพัน
ดวงตะวัน​อัน​แผดเผา​กับ​ดวงดาว​สีดำ​ทั้ง​หลาย​​ที่​รวมตัว​เป็น​ปัญญา​หนึ่ง​​สอดส่อง​หา​ทุก​สิ่ง​ที่​เป็น​และ​จะ​เป็น​ไป​ทั่ว​เวหา อัคนี​ชำระล้าง​ใฝ่​หา​การ​รู้​แจ้ง แต่​ไม่​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​มัน​เรียนรู้ ไม่​สนใจ​ที่​จะ​เข้าใจ จิตใจ​ทั้งหลาย​ที่​ต้อง​แสง​แห่ง​ความ​กระจ่าง​อัน​ทำลายล้าง​ถูก​กัก​ไว้​ให้​เป็น​เถ้าถ่าน มี​ค่า​เพียง​ผง​ธุลี เป็น​เพียง​หยด​น้ำ​ท่ามกลาง​พายุ​ฝน เป็น​เพียง​สายลม​ที่​พัด​เพื่อ​เพิ่ม​เชื้อ​ไฟ​ให้​กับ​ไฟ​โลกันตร์ ความ​หมกมุ่น​นี้​ทำให้​มัน​มืดบอด​ต่อ​เส้นทาง​ที่​ผู้คุ้มแสง​กำหนด​ไว้​ก่อนหน้า​พวก​มัน
อัคนีชำระล้าง
ปาก​อัน​เปิด​กว้าง​เป็น​เพียง​ประตู​สู่​เขาวงกต​ของ​ช่องท้อง​ทั้ง​หลาย​ที่​ไม่​อาจ​เติมเต็ม กระแส​ความหิวโหย​ที่​ไม่รู้สิ้น​ย่อม​ไม่​อาจ​สิ้นลง​ด้วย​การ​ทำลาย​ปาก​เดียว เมเวน​ยัง​ยึดครอง​ต่อไป แต่​การ​ท้าทาย​ยัง​ไม่​จบ​เช่นกัน
ความหิวโหยไม่รู้สิ้น
ใย​ที่​แผ่​ขยาย​ไป​ตาม​ดวงดาว​นับ​พัน​ทั้ง​ลุกโชน​และ​มืดดำ​เป็น​ผ้าคลุม​แห่ง​ปัญญา​ที่​หิวโหย​ต่อ​ความรู้​ชั่วนิรันดร์ จิตใจ​ย่อม​ไม่​ตระหนัก​ถึง​การ​ทำลายล้าง​เซลล์​ประสาท​เดียว เมเวน​ยัง​ยึดครอง​ต่อ​ไป แต่​การ​ท้าทาย​ยัง​ไม่​จบ​เช่น​กัน
ดวงดาวสีดำ
ยอดแหลม​เติบโต​ตาม​พื้นที่​ที่​ถูก​พิชิต​จาก​ประสงค์​จาก​ตัวแทน​ของ​อำนาจ​พัวพัน จารึก​ว่า​มี​เนื้อหนัง​ที่​กรีดร้อง​มากมาย​มหาศาล​ให้​กลืนกิน การ​ทำลายล้าง​ผู้นำ​สาส์น​หยุด​ยั้ง​ความหิวโหย​ภายใน เมเวน​ยัง​ยึดครอง​ต่อไป... ใน​ตอนนี้
ผู้กลืนกินโลกา
แสง​อัน​ลุกไหม้​ที่​เผาผลาญ​เวหา​มา​ชั่ว​กาล​นาน​กลับ​เย็น​ลง​เพียง​ชั่ว​อึดใจ ชัยชนะ​ของ​เจ้า​บดบัง​แสง​อัน​ตื่น​รู้​ของ​เจ้านาย​มัน​ใน​กาล​นี้ เมเวน​ครอง​ชัย... ใน​ตอน​นี้
อุปราชอาบเพลิง
สอง​ผู้​อ้าง​สิทธิ์​เข้า​มา​ด้วย​ความ​หิวโหย​อัน​จน​ตรอก สอง​ผู้​อ้าง​สิทธิ์​ถูก​ปฏิเสธ เมเวน​กับ​นักพเนจร​ยัง​ยืนหยัด เปื้อน​เลือด ครอง​ชัย แต่​เวลา​นั้น​ชั่ว​ครู่ และ​เวลา​นั้น​ชั่ว​นิรันดร์ ศัตรู​มี​มากกว่า​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า ศัตรู​คือ​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า จำ​ยาม​นี้​เอา​ไว้​ให้​ดี ยาม​ที่​เจ้า​เข้าใจ​ว่า​คลื่น​ที่​เข้า​มา​นั้น​หนัก​เกิน​พิชิต​เพียง​ใด นี่​ไม่ใช่​จุดจบ แต่​เป็น​เพียง​จุด​เริ่มต้น
ไม่ใช่จุดจบ
น่านน้ำ​อัน​มืดมัว​กลับ​กระจ่าง เผย​แสง​ให้​เห็น​แก่​อดีต ดินแดน​นี้​เกิด​ความ​เงียบงัน​ด้วย​น้ำมือ​ของ​นักพเนจร ดินแดน​นี้​เกิด​ความ​เงียบงัน​ด้วย​น้ำมือ​ของ​หก​ผู้ เมื่อ​เป็น​หนึ่ง พวก​เขา​บรรลุ​ใน​สิ่ง​ที่​ไม่​อาจ​ทำได้​สำเร็จ แต่​เมื่อ​กระจัดกระจาย​ตาม​ลำพัง พวกเขา​อ่อนแอ เธอ​ยัง​เก็บ​พวกเขา​เอา​ไว้​เป็น​ของ​ล้ำค่า​ทั้ง​สี่ เป็น​แหล่ง​ความ​เพลิดเพลิน​อัน​ไม่รู้​จบ แต่​เธอ​ไม่​สบ​อารมณ์​นัก​ที่​อีก​สอง​ผู้​ยัง​รอดพ้น​จาก​เงื้อมมือ​เธอ...
กลุ่มผู้สังหารเอลเดอร์
เจ้า​บังคับ​ให้แทรกแซง นัก​พเนจร เจ้า​ได้พิสูจน์​ว่า​เจ้าเกรียงไกร เจ้า​ได้พิสูจน์​ว่า​เจ้า​เขลา

เมเวน​เป็น​เพียง​เด็ก​หัด​เดิน ดักแด้ เป็น​ตัว​อ่อน​ผู้เตลิด​ไป​ไกลแล้ว​ได้​สร้าง​รัง​ของ​เธอ​เอง หาก​ข้า​ยอม​ให้เจ้า​ดำเนิน​ต่อ​ไป มัน​ย่อม​พบ​ว่า​ทายาท​ของ​มัน​ร่ำร้อง​และ​บาดเจ็บ หาก​ข้า​ยอม​ให้​เจ้า​ดำเนิน​ต่อ​ไป เจ้า​ย่อม​ก่อ​ให้​เกิด​โทสะ​อัน​เหนือ​คณา​นับ การ​สิ้นลง​และ​แน่นิ่ง​และ​เยือกเย็น​นั้น​ย่อม​ดี​ไป​กว่า​การ​ถูก​ลงทัณฑ์​อัน​ไร้​ที่​สิ้น​หรือ​กาล​สิ้น​สุด

เมเวน​จำ​ต้อง​ต้อง​ถูก​พิทักษ์และ​คุ้มครอง​เพื่อ​เป็น​เมตตา​แก่พวก​เจ้า​ทั้ง​สอง จุดจบ​นั้น​เลื่อน​ถอย​แต่มิได้สิ้น​ไป ขอ​ให้เจ้า​จง​สำราญ​ไป​กับ​กาล​ที่เหลือ​ของ​เจ้า​เถิด ขอ​ให้เจ้า​จง​เตรียม​พร้อม​ต่อ​การ​มา​ถึง​ของ​มัน​เถิด
คำเตือน
เธอ​ถูก​ดึงดูด​มา​ที่​แห่ง​นี้​ท่ามกลาง​ความเงียบงัน​อัน​ดัง​สนั่น เธอ​พอใจ​ที่​เจ้า​อยู่​ที่​นี่​เช่น​กัน เจ้า​อยู่​ท่ามกลาง​สนามเด็กเล่น​ของ​เธอ กระจัดกระจาย​ไป​ด้วย​ของ​เล่น​เพื่อ​สนอง​ความ​สนุกสนาน​ของ​เธอ เจ้า​นำพา​การ​ทำลายล้าง​มา​อย่าง​ไม่​หยุดยั้ง​อัน​เป็น​ผล​ให้​เธอ​พึง​พอใจ เธอ​ยินดี​ไป​กับ​การ​ประดาบ การ​หลั่งเลือด​ไร้​ที่​สิ้น และ​การ​สังหาร​หมู่​อัน​ไร้​ความ​เมตตา

เธอ​ผู้​ทอดเงา​อยู่​ใต้​แสงดาว​นั้น​เรียนรู้​และ​เล่น​อยู่​ตลอด​กาล​โดย​ไม่​ล่วงรู้​ถึง​ผล​ของ​การ​กระทำ ข้า​ได้​มอง​เห็น​การ​ทำลายล้าง​เหนือ​ธรรมดา​ตาม​ประสงค์​ของ​เธอ เธอ​เป็น​เพียง​ทารก​เจ้า​อารมณ์​ที่​ถูก​ความ​ปรารถนา​ชักนำ​โดย​ไม่ล่วง​รู้​ถึง​กำลัง​ของ​เธอ ข้า​ดูแล​เธอ แต่​มัน​เป็น​หน้าที่​ที่​ไม่​น่า​อภิรมย์​และ​ไม่​น่า​ชื่นชม ข้า​ถูก​ผูกมัด​อยู่​กับ​เธอ ถูก​จองจำ​ให้​รับ​ใช้​เธอ และ​ทำ​หน้าที่​ใน​ฐานะ​ผู้ปกป้อง​กับ​ผู้ดูแล​ของ​เธอ
เมเวน
ปลา​ว่ายน้ำ​ไป​ตาม​น่านน้ำ​ที่​ไร้​การ​ครอบครอง​ส่อง​ประกาย​ไป​ตาม​แสง​ของ​ดวงจันทร์ มัน​ว่องไว มี​เกล็ด​เงิน ไม่​ล่วง​รู้​ถึง​ภัย​สยอง​ร่าง​งู​ใน​ห้วง​ลึก มัน​ดิ้น​อย่าง​มืด​บอด​ใน​สภาวะ​กึ่ง​สติ มัน​เคลื่อนไหว​ด้วย​การ​โต้ตอบ​และ​ไร้​จิตใจ มัน​ไม่​อาจ​มอง​หา​ความ​ปลอดภัย​หรือ​อิ่มเอิบ​ผ่าน​สัญชาตญาณ​โดย​ลำพัง

ปลา​นั้น​มิได้​ตระหนัก​ถึง​จุด​ประสงค์​ของ​มัน มัน​ตระหนัก​รู้​เพียง​คลื่น​น้ำ​ที่​ซัดสาด​ซึ่ง​กำหนด​ทิศทาง​ของ​มัน​เพียง​เล็กน้อย ทว่า​มัน​ยัง​เคลื่อนไหว​เพื่อ​ใฝ่​หา​สิ่ง​อื่น​อยู่​ตลอดกาล
สมุดแผนที่

Envoy_Greeting_01.ogg

Envoy_Greeting_02.ogg

Envoy_Greeting_03.ogg

Envoy_Greeting_04.ogg

Envoy_Greeting_05.ogg

Envoy_Greeting_06.ogg

Envoy_Greeting_07.ogg

Envoy_Greeting_08.ogg

Envoy_Greeting_09.ogg

Envoy_Greeting_10.ogg

Envoy_Greeting_11.ogg

Envoy_Greeting_12.ogg

Envoy_Greeting_13.ogg

Envoy_Greeting_14.ogg

Envoy_Greeting_15.ogg

Envoy_Farewell_14.ogg

Envoy_Farewell_13.ogg

Envoy_Farewell_09.ogg

Envoy_Farewell_08.ogg

Envoy_Farewell_07.ogg

Envoy_Farewell_06.ogg

Envoy_Farewell_05.ogg

Envoy_Farewell_04.ogg

Envoy_Farewell_03.ogg

Envoy_Farewell_02.ogg

Envoy_Farewell_01.ogg
Edit

Wikis Content is available under CC BY-NC-SA 3.0 unless otherwise noted.