สุริยุปราคา
Solar Eclipse
| # | ชื่อ |
|---|---|
| 1 | ค้นหาเส้นทางผ่านท่อน้ำทิ้ง ค้นหาเส้นทางผ่านท่อน้ำทิ้งเพื่อค้นหาลูกแก้วตะวัน Area: ท่อส่งสารพิษ NPC: ผู้คนมองว่าโซลาริสเป็นแสงสว่างแห่งผู้นำ ที่นำทางและให้ความกระจ่างแก่จักรพรรดิแต่ละองค์ที่ประทับบนบัลลังก์ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว จักรพรรดิส่วนใหญ่ก็ออกจะเบาปัญญาไปสักหน่อย แต่ประวัติศาสตร์กับเทววิทยาก็มักไปด้วยกันไม่ค่อยได้น่ะนะ ส่วนลูนาริส เทพีแห่งดวงจันทร์กับแผ่นดิน มารดาแห่งความฝันและแรงบันดาลใจ ซึ่งเธอก็ดูเป็นสตรีที่ไม่เลวนัก แต่เจ้าลองคิดดูนะ ความฝันนั้นก็โอบอุ้มฝันร้าย และแรงบันดาลใจนั้นอยู่ใกล้จากความเสียสติเพียงแค่เอื้อม แน่นอนว่าเขากอดรัดลูกแก้วนั้นเอาไว้ราวกับเป็นเต้านมที่ให้นมของมารดาบุญธรรมของเขาเสียเอง หากเจ้าอยากให้เขาหย่านม แล้วนำลูกแก้วนั้นไปวางไว้ที่มารดาที่เจ้าพรากไป เราอาจได้เห็นจันทราร่วงหล่นเสียเอง ลูกแก้วนั้นเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ต้องถูกฉกฉวยมาจากบุตรคนใหม่ของเธอ แล้วนำไปหว่านไว้ตรงเท้าของมารดาผู้ดึกดำบรรพ์ของเขา ลูนาริสนั้นโกรธเกรี้ยวอย่างเลือดเย็นเสียจนลืมไปว่าดวงอาทิตย์ยามรุ่งนั้นให้ชีวิตได้พอกับความเย็นเยียบยามอาทิตย์อัสดง จักรวรรดิที่ลูนาริสใฝ่ฝันนั้นย่อมเฉิดฉายไปด้วยดวงจันทร์และดวงดาวระยับ และชีวิตต่างๆ จะเหือดแห้งไปในคืนอันเป็นนิรันดร์ โซลาริสมุ่งที่จะเผากลืนให้สิ้นทุกชีวิตในพื้นที่อันกว้างใหญ่ระหว่างซ้ายขวาของซาร์น เธอไม่คิดถึงชีวิตกับความจำเป็นใดๆ ของมัน และเธอย่อมทำให้โลกนี้เหือดแห้งไปเสียสิ้นก่อนที่จะยอมจำนนต่อเหตุผล ตะวันย่อมต้องตกดิน เพื่อให้ตะวันขึ้นฟ้านั้นเป็นเรื่องประเสริฐ มิใช่เรื่องหายนะ |
| 2 | คุณค้นพบเส้นทางผ่านท่อน้ำทิ้งแล้ว พูดคุยกับมารามัวเรื่องตำแหน่งของลูกแก้วตะวัน Area: ค่ายซาร์น NPC: มันคือกางเขนแห่งนิรันดร์นั่นแหละ เวรูโซ ปฐมจักรพรรดิ นำมันมาไว้ตรงนั้นในช่วงที่เริ่มก่อตั้งจักรวรรดิ หากมันเป็นไปตามตำนาน กางเขนนี้ย่อมมีพลังที่จะชี้เป็นชี้ตายได้... เมื่อทำตามพิธีกรรมแอสเมรีที่ถูกต้อง ข้าเรียนรู้พิธีกรรมนั้นแล้ว ข้าขอเพียงกางเขนแห่งนิรันดร์เพียงเท่านั้น ข้ารู้ว่าข้าสามารถนำโทลแมนกลับมาได้... อย่างถูกต้องในคราวนี้ เจ้าช่วยนำของโบราณนั่นมาให้เราได้ไหม? ข้าลองแล้ว แต่สิ่งมีชีวิตแถวๆ แท่นบูชานั่น... มันอันตรายเกินไป ใช่ ใช่ โทลแมน ข้ากำลังพูดเรื่องนั้นอยู่ ข้าเตรียมจุดที่จะทำพิธีแล้ว อยู่ภายในท่าเทียบเรือนั่นแหละ ได้โปรดนำกางเขนไปหาเราที่นั่น ข้าจะได้นำชีวิตกลับคืนมาสู่คนรักของข้าเสียที ยังไงก็ตาม ขอบคุณมาก บัดนี้ท่อน้ำทิ้งจะไหลไปอย่างสะดวกในเมื่อไม่มีแม่มดโสโครกมาอุดท่ออีกต่อไป นี่ เอาอะไรไปฉลองการกวาดล้างอันยอดเยี่ยมของเจ้าเสียเถอะ พระองค์เปลี่ยนสวนส่วนตัวให้มีกับดักกับสัตว์ร้ายเหี้ยมโหดมากมาย อาชญากรที่ถูกจับกุมก็จะได้รับทางเลือก ไม่ตาย ก็ต้องเข้าสวน หากพวกเขารอดมาได้ พวกเราจะได้รับพระราชทานอภัยโทษนั่นเอง เท่าที่ข้ารู้ ข้าไม่เห็นว่ามีการอภัยโทษเลยนะ พอใครมีเวลากับเงินทองมากเกินไป มันก็เป็นแบบนี้แหละ ปัญหาก็คือทิทูเชียสดันฟื้นคืนชีพมาปกป้องของมีค่าของเขาอีกรอบ หากเจ้าเอาปีกแห่งวาสตีรีกลับมาได้ ข้ามั่นใจว่าข้าเอาไปขายให้กับมาราเค็ทเพื่อทำเงินอย่างงาม มันเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมนี่นา มีมูลค่าทางอารมณ์อยู่มากมาย เจ้าว่ายังไงล่ะ? แน่นอนว่าเขากอดรัดลูกแก้วนั้นเอาไว้ราวกับเป็นเต้านมที่ให้นมของมารดาบุญธรรมของเขาเสียเอง หากเจ้าอยากให้เขาหย่านม แล้วนำลูกแก้วนั้นไปวางไว้ที่มารดาที่เจ้าพรากไป เราอาจได้เห็นจันทราร่วงหล่นเสียเอง ลูกแก้วนั้นเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ต้องถูกฉกฉวยมาจากบุตรคนใหม่ของเธอ แล้วนำไปหว่านไว้ตรงเท้าของมารดาผู้ดึกดำบรรพ์ของเขา แต่เอาเถิด การเดินทางของเราใกล้ถึงจุดสิ้นสุดเสียเต็มที ทางเหนือคือทางผ่านแดนสูง กับจุดมุ่งหมายในการนำเอาเถ้าถ่านอันมืดมนมาจากบีสต์ผู้วายชนม์ของข้า เราควรรีบเสียเต็มที คิทาวาแข็งแกร่งขึ้นทุกขณะ และยิ่งพวกทวยเทพได้เดินดินอยู่นานเท่าไร มนุษยชาติก็ยิ่งมีโอกาสรอดน้อยลง แต่เอาเถิด การเดินทางของเราใกล้ถึงจุดสิ้นสุดเสียเต็มที ทางเหนือคือทางผ่านแดนสูง กับจุดมุ่งหมายในการนำเอาเถ้าถ่านอันมืดมนมาจากบีสต์ผู้วายชนม์ของข้า เราควรรีบเสียเต็มที คิทาวาแข็งแกร่งขึ้นทุกขณะ และยิ่งพวกทวยเทพได้เดินดินอยู่นานเท่าไร มนุษยชาติก็ยิ่งมีโอกาสรอดน้อยลง แต่เอาเถิด การเดินทางของเราใกล้ถึงจุดสิ้นสุดเสียเต็มที ทางเหนือคือทางผ่านแดนสูง กับจุดมุ่งหมายในการนำเอาเถ้าถ่านอันมืดมนมาจากบีสต์ผู้วายชนม์ของข้า เราควรรีบเสียเต็มที คิทาวาแข็งแกร่งขึ้นทุกขณะ และยิ่งพวกทวยเทพได้เดินดินอยู่นานเท่าไร มนุษยชาติก็ยิ่งมีโอกาสรอดน้อยลง So what did I do? So what did I do? So what did I do? |
| 3 | ค้นหาลูกแก้วตะวัน ค้นหาลูกแก้วตะวันภายในวิหารโซลาริสแล้วใช้มันเพื่ออัญเชิญโซลาริส Area: วิหารโซลาริส |
| 4 | ค้นหาลูกแก้วตะวันภายในวิหารโซลาริสแล้วใช้มันเพื่ออัญเชิญโซลาริส Area: วิหารโซลาริส |
| 5 | สังหารดอว์น สังหารดอว์นผู้ปกปักรักษาลูกแก้วตะวัน Area: วิหารโซลาริส |
| 6 | เก็บลูกแก้วตะวัน คุณได้สังหารดอว์นแล้ว เก็บลูกแก้วตะวัน Area: วิหารโซลาริส |
| 7 | ค้นหาลูกแก้วจันทรา คุณยังต้องค้นหาลูกแก้วจันทราในการอัญเชิญโซลาริสอีกด้วย Area: วิหารลูนาริส NPC: ข้าขอให้มันเป็นเช่นนั้น และขอให้เจ้าตัดเหล่าเทพีให้สิ้นเช่นเดียวกับที่พรานจะตัดต้นไม้เก่าแก่ที่ดื้อด้านให้ร่วงลงไป |
| 8 | นำลูกแก้วตะวันไปยังสะพานท่าเรือแล้วอัญเชิญโซลาริส Area: สะพานท่าเรือ NPC: ข้าขอให้มันเป็นเช่นนั้น และขอให้เจ้าตัดเหล่าเทพีให้สิ้นเช่นเดียวกับที่พรานจะตัดต้นไม้เก่าแก่ที่ดื้อด้านให้ร่วงลงไป |
| 9 | คุณได้ใช้ลูกแก้วตะวันอัญเชิญโซลาริสออกมาแล้ว สังหารเธอเสีย Area: สะพานท่าเรือ |
| 10 | ภารกิจเสร็จสิ้น - คุณได้สังหารโซลาริสแล้ว NPC: แต่ข้าไม่ว่าหรอกนะ! ประสบการณ์บอกข้าว่าเทวาธิปไตยอะไรนี่มันไม่ดีสำหรับผู้ประกอบการอย่างข้า เว้นว่าเจ้าจะทำของบูชาเทพขาย ซึ่งวงการนั้นมันใจแคบ มีระเบียบเกินไป ให้มันวุ่นวายแบบเดิมน่ะดีแล้ว เพราะว่าโอกาสย่อมบังเกิดมาจากความวุ่นวายเสมอ ซาร์นจะได้กลับไปวุ่นวายดังเดิม ข้าก็กลับไปเปิดกิจการได้ดังเดิม ทุกคนเป็นผู้ชนะ! ทุกคนในซาร์นย่อมขอบคุณเจ้าในไม่ช้าก็เร็ว แต่ในตอนนี้ข้าขอเป็นผู้ขอบคุณเจ้าไปเสียก่อน ในทางนี้ เราย่อมได้เผชิญกับเหล่าเทพีแห่งมาราเค็ท และพวกเธอย่อมไม่ต้อนรับขับสู่ต่อจุดมุ่งหมายของเราแต่โดยดีเป็นแน่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าจะต้องเข้าไปในศพของบีสต์อันเป็นที่รักของข้า แล้วฉกชิงความหวังอันเล็กน้อยมาจากชีวิตที่เจ้าพรากไปด้วยความมืดบอด ไม่มีคำทำนายหรือลางใด ไม่มีมหากาพย์หรืออุปมาใดที่จะยืนยันว่าเจ้าจะรอดชีวิตในการเดินทางอันยิ่งใหญ่ของเรา เพราะต่อให้เจ้าจะประดับประดาไปด้วยหลายต่อหลายอย่างมากมาย แต่เจ้าก็ยังคงเป็นมนุษย์ที่ตายได้อยู่วันยังค่ำเป็นแน่แท้ ในทางนี้ เราย่อมได้เผชิญกับเหล่าเทพีแห่งมาราเค็ท และพวกเธอย่อมไม่ต้อนรับขับสู่ต่อจุดมุ่งหมายของเราแต่โดยดีเป็นแน่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าจะต้องเข้าไปในศพของบีสต์อันเป็นที่รักของข้า แล้วฉกชิงความหวังอันเล็กน้อยมาจากชีวิตที่เจ้าพรากไปด้วยความมืดบอด ไม่มีคำทำนายหรือลางใด ไม่มีมหากาพย์หรืออุปมาใดที่จะยืนยันว่าเจ้าจะรอดชีวิตในการเดินทางอันยิ่งใหญ่ของเรา เพราะต่อให้เจ้าจะประดับประดาไปด้วยหลายต่อหลายอย่างมากมาย แต่เจ้าก็ยังคงเป็นมนุษย์ที่ตายได้อยู่วันยังค่ำเป็นแน่แท้ |