ข้าจะคิดถึงไอ้หนุ่มนั่นแน่ เขามักพร้อมหัวเราะอยู่เสมอ ไม่ว่าเขาจะถูกล้อเลียนหรือไม่ก็ตาม แต่ข้าคงจะคิดถึงแคลร์ริสซาของเรามากกว่า
ข้าชื่อฮาร์แกนนะ เป็นเกียรตินักที่ข้าได้ต้อนรับเจ้าสู่ซาร์นอันเก่าแก่และสกปรก ที่นี่คือมหานครแห่งโอกาส โอกาสที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวเจ้าให้ดิบดี ไม่ก็เป็นโอกาสที่จะตายอย่างย่ำแย่ — แนะนำตัว |
ตอนนี้เราไม่ค่อยมีอารมณ์สนทนาสักเท่าไหร่ คนรักตาใสของเราหายตัวไปน่ะ แคลร์ริสซากับโทลแมน ข้าเห็นพวกเขาครั้งสุดท้ายตอนที่พวกเขาเดินทางเข้าไปในเมือง
หากเจ้าอยากช่วย เจ้าลองคอยดูให้ดีถ้าไปทางนั้นก็แล้วกัน โอเคนะ? เราอยากได้คู่หนุ่มสาวของเรากลับคืนมา คู่นี้ทำให้ที่นี่สวยงามขึ้นมาหน่อย — แคลร์ริสซา |
ข้าจำหน้าเจ้าได้! หน้าที่ทำให้ข้าเสียเหรียญไปมากมายในลานประลองที่ธีโอโพลิส ข้านึกว่าเจ้าเป็นหนุ่มรูปงามสูงศักดิ์ที่รนหาที่ตาย ข้าลงเดิมพันฝั่งตรงข้ามเจ้าไปจนหมดหน้าตัก
แต่เจ้าดันตวัดดาบได้งามพอๆ กับชุดของเจ้าน่ะสิ นี่อาจเป็นโอกาสอันดีที่เจ้าจะได้ใช้หนี้ที่เจ้าติดข้าไว้นะ ดูเอลลิสต์
คนรักตาใสของเราหายตัวไปน่ะ แคลร์ริสซากับโทลแมน ข้าเห็นพวกเขาครั้งสุดท้ายตอนที่พวกเขาเดินทางเข้าไปในเมือง ช่วยอะไรเราหน่อย แล้วคอยดูให้ดีถ้าออกไปข้างนอกน่ะ โอเคนะ? — แคลร์ริสซา |
เทมพลาร์... ที่ถูกเนรเทศเนี่ยนะ? ข้าคงได้เห็นทุกอย่างบนโลกแล้วละ โดมินัสคงจะไม่เหลือนักธุรกิจสุจริตให้ขับไล่แล้ว ก็เลยมาถึงคราวของอาชญากรตัวจริงเสียที
ในเมื่อเจ้ามาที่นี่แล้ว ท่านสาธุคุณ เจ้าอาจจะช่วยเราได้บ้าง เราเสียคนรักตาใสของเราไปน่ะ แคลร์ริสซากับโทลแมน ข้าเห็นพวกเขาครั้งสุดท้ายตอนที่พวกเขาเดินทางเข้าไปในเมือง
ขอให้พระเจ้าทรงนำทางเจ้าไปสู่การรอดพ้นของพวกเขาด้วย ท่านสาวก — แคลร์ริสซา |
"เจ้าไม่มีทางจับชาโดว์ได้" เป็นสิ่งที่เรานักธุรกิจสุจริตมักได้ยินเวลาที่นึกถึงบริการของเจ้า แต่เจ้าก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ข้าว่ามันเป็นการโฆษณาลวงโลกนะ
มาดูกันเถอะว่าเจ้าจะกอบกู้ชื่อเสียงเสื่อมเสียของเจ้าได้ยังไง เราเสียคนรักตาใสไปสองคน แคลร์ริสซากับโทลแมน ข้าเห็นพวกเขาครั้งสุดท้ายตอนที่พวกเขาเดินทางเข้าไปในเมือง ข้ารู้ดีว่านี่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตงานของเจ้า แต่ได้โปรดช่วยให้พวกเขารอดชีวิตกลับมาด้วย — แคลร์ริสซา |
น่าเสียดายเรื่องไอ้หนุ่มนั่นนะ เขาเป็นเด็กดี แต่ไม่ได้หัวดีขนาดนั้น ไม่เหมือนกับแคลร์ริสซาเลย เธอน่ะเอาตัวรอดเก่ง เจ้าช่วยเธอรักษาชื่อเสียงในการเอาตัวรอดนั่นหน่อยได้ไหม? — โทลแมน |
คนแปลกหน้าเดินเข้าเมืองมาพร้อมกับคนรักที่สูญหาย มันเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของมุกตลก ซึ่งข้าก็อยากให้เป็นแบบนั้นน่ะ ปัญหาก็คือ เรายังขาดคนรักตาใสไปอีกคนหนึ่ง ซึ่งมันก็ไม่ช่วยอะไรใครเลย คนรักมักจะมากันเป็นคู่นั่นแหละนะ
ไหนๆ เจ้าก็ 'ทำดี' จนจะเป็นธุรกิจแล้ว เจ้าก็ไปช่วยโทลแมนอีกคนเสียสิ — โทลแมน |
ข้าจำหน้าเจ้าได้! หน้าที่ทำให้ข้าเสียเหรียญไปมากมายในลานประลองที่ธีโอโพลิส ข้านึกว่าเจ้าเป็นหนุ่มรูปงามสูงศักดิ์ที่รนหาที่ตาย ข้าลงเดิมพันฝั่งตรงข้ามเจ้าไปจนหมดหน้าตัก
แต่เจ้าดันตวัดดาบได้งามพอๆ กับชุดของเจ้า อย่างน้อยเจ้าก็เอาตัวแคลร์ริสซากลับมาหาเราแล้ว ข้าจะถือว่าเจ้าใช้หนี้ที่ติดข้าไว้ครึ่งหนึ่งแล้วกัน
แต่ปัญหาก็คือ คนรักตาใส{คนเดียว}มันไม่มีประโยชน์กับใครทั้งนั้น มันก็เหมือนถุงมือน่ะ มันมักจะมีประโยชน์กว่าเดิมเมื่ออยู่เป็นคู่ ในกรณีนี้ ถุงมือที่ข้างที่หายไปก็คือหนุ่มน้อยที่ชื่อว่าโทลแมน
ตามตัวโทลแมนกลับมาให้เรา แล้วข้าจะยินดีที่จะยกเลิกหนี้ที่เจ้าติดข้าไว้ — โทลแมน |
เทมพลาร์... ที่ถูกเนรเทศเนี่ยนะ? ข้าคงได้เห็นทุกอย่างบนโลกแล้วละ โดมินัสคงจะไม่เหลือนักธุรกิจสุจริตให้ขับไล่แล้ว ก็เลยมาถึงคราวของอาชญากรตัวจริงเสียที แค่ล้อเล่นน่ะ ท่านสาธุคุณ ที่จริงข้าขอบคุณเจ้ามากที่นำตัวแคลร์ริสซากลับมาหาเรา
แต่ปัญหาก็คือ คนรักตาใส{คนเดียว}มันไม่มีประโยชน์กับใครทั้งนั้น มันก็เหมือนถุงมือน่ะ มันมักจะมีประโยชน์กว่าเดิมเมื่ออยู่เป็นคู่ ในกรณีนี้ ถุงมือที่ข้างที่หายไปก็คือหนุ่มน้อยที่ชื่อว่าโทลแมน
ขอให้พระเจ้าเบื้องบนทรงนำทางเจ้าไปสู่การรอดพ้นของโทลแมนด้วย ท่านสาวก — โทลแมน |
"เจ้าไม่มีทางจับชาโดว์ได้" เป็นสิ่งที่เรานักธุรกิจสุจริตมักได้ยินเวลาที่นึกถึงบริการของเจ้า แต่เจ้าก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ข้าว่ามันเป็นการโฆษณาลวงโลกนะ
อย่างน้อยเจ้าก็นำตัวแคลร์ริสซากลับมาหาเราแล้ว อย่างน้อยเจ้าก็กอบกู้ชื่อเสียงที่เสื่อมเสียคืนมาได้ส่วนหนึ่ง
แต่ปัญหาก็คือ คนรักตาใส{คนเดียว}มันไม่มีประโยชน์กับใครทั้งนั้น มันก็เหมือนถุงมือน่ะ มันมักจะมีประโยชน์กว่าเดิมเมื่ออยู่เป็นคู่ ในกรณีนี้ ถุงมือที่ข้างที่หายไปก็คือหนุ่มน้อยที่ชื่อว่าโทลแมน
ลองดูว่าเจ้าจะปิดงานได้ไหม โอเคนะ? ตามหาโทลแมนให้เจอ ข้ารู้ดีว่านี่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตงานของเจ้า แต่ได้โปรดช่วยให้เขารอดชีวิตกลับมาด้วย — โทลแมน |
เจ้าเจอกริกอร์หรือยัง? เจอแล้วเหรอ? พายตี้เล่นงานหมอนั่นจนไม่เหลือโฉมจริงๆ ยังไงก็ตาม เขาอยากคุยกับเจ้า เรื่องอะไรสักอย่างเกี่ยวกับ 'ราชินีมณีชน' — กริกอร์ |
เจ้าได้พบกับกวีขับลำ-ที่มา-พำนักของเราหรือยัง? ไม่ คงไม่หรอก เขาเป็นคนที่ชอบเก็บตัว เจ้าจะรู้เมื่อได้เจอกับเขาเอง ยังไงก็ตาม เขาอยากคุยกับเจ้า เห็นพึมพำว่าเป็นเรื่องอะไรสักอย่างเกี่ยวกับ 'ราชินีมณีชน' ไม่ว่ามันคืออะไรก็ตาม — กริกอร์ |
ข้าเป็นคนที่คอยคุ้มครองแคลร์ริสซาเป็นประจำในสมัยที่อยู่ที่โอริอาท ข้าทำให้เธอมีกินแลกกับการที่เธอทำงานเล็กน้อย พอมาอยู่ที่นี่ข้าก็พยายามไม่ให้เธอไปมีเรื่องอะไรเข้า แต่ซาร์นเป็นที่ที่เต็มไปด้วยความลับ... ส่วนแคลร์ริสซาก็เต็มไปด้วยความสงสัย — แคลร์ริสซา |
เธอช่าง... อุดมสมบูรณ์นัก มารามัวของเราน่ะ ข้าไม่คิดว่ามีผู้หญิงคนไหนที่เผ็ดร้อนยิ่งไปกว่าเธอแล้วละ เพราะเธอมีรอยสักกับศัพท์แสงหรูหราของเธอนั่นแหละ น่าหลงใหลนัก
แต่เธอก็เป็นคนที่ใจเย็นอยู่เหมือนกัน... — มารามัว |
ข้าไม่มีทางรู้หรอกว่าหมอนั่นเจออะไรมาบ้าง มันเป็นปาฏิหาริย์นักที่กริกอร์ยังไม่เสียสติโดยสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าเขาจะหลุดๆ ไปบ้าง แต่ก็ยังหลงเหลือสติในส่วนที่น่าฟังอยู่ไม่น้อย — กริกอร์ |
แดนสลัมอยู่ทางตะวันออกของที่นี่ เมื่อหลายศตวรรษก่อนมันเป็นที่พักอาศัยของสามัญชน บัดนี้มันเป็นที่พักอาศัยของตุ่มหนองเดินได้ของนครอันน่าเวทนาแห่งนี้ — สลัม |
อย่าอยู่ในเงา มันกัดได้ — มนุษย์ไร้มรณา |
กราวิเชียสเป็นมือขวาที่หุ้มเกราะอันเปื้อนเลือดของโดมินัส ข้านึกว่าเทมพลาร์เป็นศาสนิกชนที่เข้าถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างสุดซึ้งเสียอีก เจ้าฟังน้ำเสียงข้าออกใช่ไหมว่าข้าประชดอยู่?
ข้าเคยต้องลักลอบขนคนคนหนึ่งออกจากธีโอโพลิส เพราะว่าเขาเป็นมิตรกับเมียของกราวิเชียสจนเกินไป การ์ดดำทุกคนต่างตระเวนหาตัวเขาอยู่ทั่วท้องถนน ข้าเลยต้องคิดในทางสุขานั่นแหละ เราลงไปยังท่อระบายน้ำ แล้วไม่โผล่หัวขึ้นมาที่ทางเท้าจนกระทั่งเราได้กลิ่นท้องทะเล มันเป็นงานที่ทรหดน่าดู แต่ก็คุ้มกับเหรียญที่เขาจ่ายให้
เจ้าอยากได้คำแนะนำเรื่องกราวิเชียสเหรอ? บางทีจะไปสู่ทาง 'ขึ้น' ได้ก็ต้องไปยังทาง 'ลง' เสียก่อน — นายพลกราวิเชียส |
กราวิเชียสเป็นมือขวาที่หุ้มเกราะอันเปื้อนเลือดของโดมินัส ข้านึกว่าเทมพลาร์เป็นศาสนิกชนที่เข้าถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างสุดซึ้งเสียอีก เจ้าฟังน้ำเสียงข้าออกใช่ไหมว่าข้าประชดอยู่?
ข้าเคยต้องลักลอบขนคนคนหนึ่งออกจากธีโอโพลิส เพราะว่าเขาเป็นมิตรกับเมียของกราวิเชียสจนเกินไป การ์ดดำทุกคนต่างตระเวนหาตัวเขาอยู่ทั่วท้องถนน ข้าเลยต้องคิดในทางสุขานั่นแหละ เราลงไปยังท่อระบายน้ำ แล้วไม่โผล่หัวขึ้นมาที่ทางเท้าจนกระทั่งเราได้กลิ่นท้องทะเล มันเป็นงานที่ทรหดน่าดู แต่ก็คุ้มกับเหรียญที่เขาจ่ายให้
เชื่อข้าเถอะ มันมีแค่ทางท่อน้ำเสียที่เจ้าจะแอบย่องเข้าไปยังนายพลก้นเหล็กได้ แล้วจะเข้าไปในนั้นได้เจ้าก็ต้องใช้กุญแจด้วย ลองคุยกับแคลร์ริสซาเรื่องนั้นดูก็แล้วกัน — นายพลกราวิเชียส |
เจ้าลงมือเก็บกราวิเชียสไปแล้วเหรอ? เสียดายที่ข้าติดต่อพ่อหนุ่มที่ข้าเคยลักลอบขนตัวออกมาไม่ได้ แม่ม่ายนั่นคงต้องการใครสักคนมาปลอบประโลมยามร่ำไห้น่ะนะ — นายพลกราวิเชียส |
พายตี้ไปหาท่านผู้สร้างแล้วใช่ไหมล่ะ? ข้าอยากจะเป็นแมลงวันบนกำแพงยามที่ทั้งสองคนได้คุยกันเสียจริง — พายตี้ |
วิคทาริโอเป็นกวีที่นำการปฏิวัติภายใต้จมูกของจักรพรรดิชิตัส แต่นี่เป็นสิ่งที่ข้าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ช่างประดิษฐ์วาทะของเราของเรายังเป็นนักโจรกรรมที่มีพรสวรรค์อีกด้วย เขาเคยลักขโมยครั้งใหญ่ในศตวรรษ แน่นอนว่าทำในนามของปวงประชา เป็นรูปปั้นทองคำขาวสามชิ้นชิตัสสั่งทำไว้เป็นอย่างดีให้กับนายพลคนโปรดทั้งสามของเขา
วิคทาริโอกับพรรคพวกของเขากบดานอยู่ในท่อน้ำทิ้ง ในเมื่อตอนนี้เจ้ามีกุญแจของแคลร์ริสซาแล้ว เจ้าคงอยากจะตามหารูปปั้นวีรบุรุษพวกนั้นให้กับข้าด้วย ข้าตอบแทนเจ้าได้อย่างคุ้มค่าแน่ๆ — วิคทาริโอ |
ข้าไม่ใช่นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ แต่ข้ารู้ว่าจักรพรรดิชิตัสถูกโค่นล้มโดยโวลล์แห่งเธบรัส ในเหตุการณ์ที่อ้างว่าเป็น 'การปฏิวัติพิสุทธิ์' แต่ว่าโวลล์นั้นได้ครองราชย์เป็นระยะเวลาสั้นที่สุดในบรรดาจักรพรรดินิรันดร์ทั้งหลาย จากการเกิดขึ้นของวันมหาภัยพิบัตินั่นเอง — การปฏิวัติพิสุทธิ์ |
มันเป็นรูปปั้นเล็กๆ ที่งดงามเสียจริง... หากเจ้าไม่ถืออะไร ในเมื่อเจ้ากำจัดแมลงรังควานในนั้นไปแล้ว ข้าก็อาจจะลองเข้าไปที่นั่นดู ลองขุดคุ้ยเผื่อมีของมีค่าอะไรให้เก็บมาบ้าง — เครื่องยึดของวิคทาริโอ |
รูปปั้นสองจากสามรูปงั้นเหรอ คือ มันก็ไม่ใช่รูปปั้นสามรูปใช่ไหมล่ะ? สามเป็นตัวเลขที่เรียบร้อยดีนะ ที่พำนักที่สามและที่สุดท้ายของวิคทาริโอกำลังรอเจ้าอยู่ ผู้ร่วมธุรกิจอันกล้าหาญของข้า — เครื่องยึดของวิคทาริโอ |
ถึงกวีมหาชนจะสามารถซ่อนสมบัติของเขาให้พ้นตาของชิตัสได้ แต่เขาก็ซ่อนมันจากเราไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? ข้าว่าแล้วว่าเจ้าเป็นเอ็กไซล์ที่มีหน่วยก้านเหมาะกับงานนี้จริงๆ ข้ารู้ว่าเจ้าได้รับส่วนแบ่งมาจากคลังของวิคทาริโออยู่แล้ว แต่ข้าขอแถมอะไรให้เจ้าแล้วกัน มันเป็นสิ่งที่ข้าพบใต้เตียงของคนตาย ทำไมเหรอ? ก็ข้าชอบเจ้านี่นา — เครื่องยึดของวิคทาริโอ |
ดีนะที่เห็นว่าเจ้ายังสู้ต่อไป เจอทั้งเทพ และความสยองขวัญจากอดีตรอบๆ ซาร์น ช่วงนี้ข้าก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีใครรอดมาได้ — ทักทาย |
พวกเขาเป็นคู่รักที่งามใช่ไหมล่ะ? ใช่ น่าขนลุกสิ้นดี
แม่สาวนั่นเคยเป็นคนที่อ่อนโยนที่สุดที่ข้ารู้จัก แต่ทุกวันนี้เธอก็คลั่งรักกับศพเดินได้ของเธอจนเสียสติ เอาจริงๆ เราเอาแค่หินแข็งๆ มาทุบ แล้วโทลแมนก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป มันน่าลองใช่ไหมล่ะ? — แคลร์ริสซาและโทลแมน |
ถ้าแต่ก่อนซาร์นมันยังเสียสติไม่พอ ตอนนี้เราก็มีแม่มดแก่ลิ้นแฉกที่เตรียมคำสาปฉาวโฉ่อยู่ในท่อน้ำทิ้ง ตอนแรกข้านึกว่าเป็นแม่ยายข้า แต่ไม่ใช่เลย จากความรู้ประวัติศาสตร์เท่าขี้ผงของข้านะ ข้าว่าเราเจอโดเอดรี ดาร์กทังแล้วละ
ข้าไม่รู้ว่าเธอไปมุดหัวอยู่ที่ไหนหรอก ทางเดียวที่จะจับนังแม่มดที่ได้ก็คือการที่เราลงมือทำเรื่องโสโครก แต่เจ้าอาจจะมีอะไรที่จะโสโครกมากไปกว่ามือตั้งเยอะน่ะนะ ไอ้ "เรา" นี่ก็คือ "เจ้า" นั่นแหละ ท่อน้ำทิ้งไม่ใช่ที่ที่เหมาะกับนักธุรกิจพื้นๆ อย่างข้า
ช่วยพวกเราด้วยเถอะ เข้าไปในท่อน้ำทิ้ง ล่านังแม่มดแก่นั่นมาให้ได้ ล่อเธอออกมาแล้วฆ่าทิ้งเสีย ฮ่า... ให้มันติดตาเจ้าเสียคงดีกว่าตาข้านั่นแหละ ใช่ไหมล่ะ? — โดเอดรี ดาร์กทัง |
คนที่เจ้าเล่ห์อย่างโดเอดรีก็น่าจะหนีไปซ่อนทันทีที่เห็นเจ้ามาถึง แต่ก็นะ ความตายมันคงพรากอะไรไปหลายต่อหลายอย่างแหละ สามัญสำนึกก็ด้วย
ยังไงก็ตาม ขอบคุณมาก บัดนี้ท่อน้ำทิ้งจะไหลไปอย่างสะดวกในเมื่อไม่มีแม่มดโสโครกมาอุดท่ออีกต่อไป
นี่ เอาอะไรไปฉลองการกวาดล้างอันยอดเยี่ยมของเจ้าเสียเถอะ — โดเอดรี ดาร์กทัง |
หากเจ้าจะเข้าวงการค้าของเก่า การเรียนรู้ประวัติศาสตร์มันก็มีค่านะ อย่างเช่นสวนเหนือปฐพีกับจักรพรรดิอีซาโรผู้ยิ่งใหญ่น่ะ เจ้ารู้จักเขาวงกตนายเหนือหัวไหม? อีซาโรเป็นผู้ออกแบบสวนเหนือปฐพีเพื่อเป็นตัวทดลองผลงานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
พระองค์เปลี่ยนสวนส่วนตัวให้มีกับดักกับสัตว์ร้ายเหี้ยมโหดมากมาย อาชญากรที่ถูกจับกุมก็จะได้รับทางเลือก ไม่ตาย ก็ต้องเข้าสวน หากพวกเขารอดมาได้ พวกเราจะได้รับพระราชทานอภัยโทษนั่นเอง
เท่าที่ข้ารู้ ข้าไม่เห็นว่ามีการอภัยโทษเลยนะ พอใครมีเวลากับเงินทองมากเกินไป มันก็เป็นแบบนี้แหละ — สวนเหนือปฐพี |
ข้าเตือนเลยนะ กางเขนนั่นอาจมีพลังมหัศจรรย์อะไรก็ตาม แต่ข้าว่ามันมีเหตุผลที่เวรูโซเอาไอ้กางเขนนั่นไปซ่อนแน่ๆ ข้าพยายามเตือนแคลร์ริสซาแล้ว แต่เหมือนว่าหูเธอจะตายพอๆ กับแฟนของเธอนั่นแหละ — กางเขนแห่งนิรันดร์ |
เจ้าต้องการความรู้เฉพาะทางจากข้าใช่ไหมล่ะ? โซลาริสกับลูนาริสนั้นโดดเด่นอยู่ใจกลางฝูงชนจักรวรรดินิรันดร์
ผู้คนมองว่าโซลาริสเป็นแสงสว่างแห่งผู้นำ ที่นำทางและให้ความกระจ่างแก่จักรพรรดิแต่ละองค์ที่ประทับบนบัลลังก์ แต่ในทางปฏิบัติแล้ว จักรพรรดิส่วนใหญ่ก็ออกจะเบาปัญญาไปสักหน่อย แต่ประวัติศาสตร์กับเทววิทยาก็มักไปด้วยกันไม่ค่อยได้น่ะนะ
ส่วนลูนาริส เทพีแห่งดวงจันทร์กับแผ่นดิน มารดาแห่งความฝันและแรงบันดาลใจ ซึ่งเธอก็ดูเป็นสตรีที่ไม่เลวนัก แต่เจ้าลองคิดดูนะ ความฝันนั้นก็โอบอุ้มฝันร้าย และแรงบันดาลใจนั้นอยู่ใกล้จากความเสียสติเพียงแค่เอื้อม — โซลาริสและลูนาริส |
ข้าอยากจะขอบคุณเหล่าทวยเทพนะ แต่เจ้าสังหารพวกเขาได้เร็วสิ้นดี
แต่ข้าไม่ว่าหรอกนะ! ประสบการณ์บอกข้าว่าเทวาธิปไตยอะไรนี่มันไม่ดีสำหรับผู้ประกอบการอย่างข้า เว้นว่าเจ้าจะทำของบูชาเทพขาย ซึ่งวงการนั้นมันใจแคบ มีระเบียบเกินไป ให้มันวุ่นวายแบบเดิมน่ะดีแล้ว เพราะว่าโอกาสย่อมบังเกิดมาจากความวุ่นวายเสมอ
ซาร์นจะได้กลับไปวุ่นวายดังเดิม ข้าก็กลับไปเปิดกิจการได้ดังเดิม ทุกคนเป็นผู้ชนะ! — โซลาริสและลูนาริส |
ลูกแก้วเหล่านี้ทรงพลัง เก่าแก่พอๆ กับชาวแอสเมรีเสียเอง หรืออาจจะเก่าแก่กว่านั้นอีก ข้าเคยอ่านเรื่องราวของลูกแก้วเม็ดงามเหล่านี้หมดแล้ว ว่ากันว่าลูกแก้วตะวันนั้นมีทุกสิ่งที่เคยเป็น ขณะที่ลูกแก้วจันทราที่เป็นน้องของมันนั้นมีทุกสิ่งที่จะเป็น ลูกแก้วสองลูกนี้เป็นอดีตกับอนาคตอัดแน่นภายในแก้วกับมนต์มณี มันจะเกิดอะไรขึ้นหากมันระเบิดออกมา แค่คิดข้าก็ตัวสั่นแล้ว — ลูกแก้วตะวันและจันทรา |
กริกอร์จากไปโดยไม่บอกอะไรกับข้า เขาช่างไม่สุภาพเอาเสียเลย แต่ข้าว่าจิตวิญญาณกวีของเขาถูกดึงดูดกลับไปสู่บ้าน สู่เอโซเมียร์ มันเป็นการเดินทางอันแสนไกล แต่ก็ควรค่าแก่การเดินทางเพื่อพักใจท่ามากลางฝูงชนของเขาเอง แน่นอนว่าพวกเขาต้องอึ้งแน่ๆ เมื่อได้พบกับเขา เราทำได้แต่หวังว่าความรักของครอบครัวนั้นจะมองข้ามได้ทุกสิ่งอย่างที่ว่ากันน่ะนะ!
แน่นอนว่ากริกอร์ย่อมมีเรื่องราวให้บอกเล่ากันมากมาย ในเมื่อตอนนี้โดมินัสถูกโค่นลงมาแล้ว ยังไงก็ไม่มีใครมาขัดขวางไม่ให้พวกเอโซไมต์ได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องราวของกริกอร์ขึ้นมาบ้าง พวกเขาอาจคิดที่จะรุกรานนครอันเป็นมณีในมงกุฎอันเสื่อมเสียของเวร์แคลส์ทน่ะนะ ข้าหวังว่าพวกเขาจะคอยจับตาดูโอกาสเหล่านี้เอาไว้... การช่วยผู้บุกรุกเดินทางผ่านซาร์นกับภัยร้ายทั้งหลายนั้นมันก็ทำเงินก้อนโตให้ใครสักคนได้แน่ๆ น่ะ — กริกอร์ |
ไม่ว่านายพลทิทูเชียสจะเกิดมากับความเป็นมนุษย์น้อยนิดเพียงใด เขาก็นำมันไปแลกกับพละกำลัง เขาทำถึงขั้นที่ขอให้มาลาไคเปลี่ยนข้อต่อของเขาเป็นมณีบารมี... เขามันบ้าสิ้นดี หลังจากนั้นจักรพรรดิชิตัสก็มอบหมายให้ทิทูเชียสไปกำราบชาวมาราเค็ท ซึ่งข้าว่ามันก็เป็นงานที่เขามีความสุขมากไปหน่อยน่ะนะ — เฮคเตอร์ ทิทูเชียส |
ข้าได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับนักวิชาการวาล์โบราณคนหนึ่งชื่อ 'ยูกูล' ที่ได้ทำการทดลองอันโหดร้ายพวกนี้เพื่อหาความรู้ที่ซ่อนอยู่ในก้นบึ้งแห่งความกลัวของมนุษย์ แถมยังทดลองกับเด็กๆ เสียอีก เขาทำให้เด็กทารกชาววาล์กลัวจนหัวหด แล้วค่อยสะกดความกลัวของพวกเขาภายในโถงกระจกมนต์มณี
อาจจะฟังดูไร้สาระ นี่ก็เป็นจุดที่อะไรคลุมเครือขึ้นมา เหมือนว่ายูกูลนี่จะพบอะไรบางอย่างในความกลัวนั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เพียงพอแก่การทำให้พวกวาล์กลัวเสียจนหันมาบูชาเขาไปเปเสีย
ว่ากันตรงๆ นะ บางคนก็พร้อมบูชาอะไรก็ตามที่ทำให้จิตใจสงบน่ะ — ยูกูล |
มันก็คือไอ้นักวิชาการเวรนั่นจริงๆ ใช่ไหมล่ะ? ไอ้วิตถารนั่น อย่างน้อยเขาก็ตายไปแล้ว ข้าหวังว่าเข้าจะทำให้เขาทรมานเหมือนกับเด็กๆ ที่เขาเคยทรมานนะ ข้าคงจะจับเขาไปปิ้งอย่างช้าๆ เหมือนหมูเสียบไม้ ดูว่าเขาชอบโดนเอาแอปเปิ้ลยัดปากขนาดไหน
นี่ เอาอะไรไปสักอย่างในฐานที่เจ้าทำให้เราปลอดภัยจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันน่ารังเกียจบนโลกใบนี้ — ยูกูล |
บอกข้าอะไรหน่อย เจ้าสนใจที่จะมาร่วมมือแล้วทำกำไรงามๆ กับฮาร์แกนที่คุ้นเคยบ้างไหม? เจ้ารู้จักปีกแห่งวาสตีรีบ้างไหม? ไม่ มันไม่ใช่วัตถุโบราณทั่วไปหรอก มันเป็นสัญลักษณ์แห่งการครองตำแหน่งอันสูงสุดของชาวมาราเค็ท โดยผู้ที่ถือครองนั้นก็คือ "เซ็คเคมาแห่งเซ็คเคมา" ตำราประวัติศาสตร์กล่าวว่าปีกนั้นถูกสวมใส่เป็นครั้งสุดท้ายโดยเซ็คเคมาอาเซแนธ ผู้ที่เป็นเซ็คเคมาสีทอง... ผู้ที่ถูกเฮคเตอร์ ทิทูเชียสฆ่าตายนั่นแหละ
ปัญหาก็คือทิทูเชียสดันฟื้นคืนชีพมาปกป้องของมีค่าของเขาอีกรอบ หากเจ้าเอาปีกแห่งวาสตีรีกลับมาได้ ข้ามั่นใจว่าข้าเอาไปขายให้กับมาราเค็ทเพื่อทำเงินอย่างงาม มันเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมนี่นา มีมูลค่าทางอารมณ์อยู่มากมาย
เจ้าว่ายังไงล่ะ? — ปีกแห่งวาสตีรี |
เจ้าหาของนั่นเจอแล้ว! ข้าว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ แล้วเฮคเตอร์ของเราเป็นยังไงบ้างล่ะ? เขาคงไม่สบายดีนักหลังจากที่ได้เผชิญกับเจ้า ข้าพูดถูกไหม? ข้าจะลับปีกพวกนี้ให้สะอาด แล้วค่อยส่งไปให้เจ้าของอีกที ทันทีที่เพื่อนมาราเค็ทของข้าบอกให้พรรคพวกของเธอจ่ายค่าไถ่... อะแฮ่ม ค่าของน่ะนะ
ในขณะเดียวกัน เอาของจากสต็อกของข้าไปเป็นค่าตอบแทนนะ — ปีกแห่งวาสตีรี |
ข้าบอกได้ว่ามันถูกหลอมมาจากทองคำแท้ทั้งแท่งน่ะ แต่ข้าว่าเจ้าคงไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้นเป็นแน่
ปีกนั้นเป็นมรดกตกทอดอันล้ำค่าของชาวมาราเค็ท ในสมัยที่เผ่าต่างๆ เลิกต่อล้อต่อเถียงกันแล้วร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับจักรวรรดินิรันดร์ ปีกนั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีนั่นเอง เซ็คเคมาสีทองที่สวมปีกนี้ในยามที่เธอนำกองทัพมาราเค็ทบุกโจมตีซาร์นน่ะเหรอ? แอเซแนธผู้นั้นเป็นความหวังอันยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวมาราเค็ท
เฮคเตอร์ ทิทูเชียสพรากความหวังของพวกเขา พรากชีวิตเซ็คเคมาอันทรงคุณค่าของพวกเขาไปด้วย — ปีกแห่งวาสตีรี |
— H14a.ogg |
— H14b.ogg |
— H14c.ogg |
— H14d.ogg |
— H14e.ogg |
— H14f.ogg |
— H14g.ogg |
— H14h.ogg |
— H14i.ogg |
— H14j.ogg |
— H14k.ogg |
— H14l.ogg |
— H27b.ogg |
— H15_Bye_01.ogg |
— H15_Bye_02.ogg |
— H15_Bye_03.ogg |
— H15_Bye_04.ogg |
— H15_Bye_05.ogg |
— H15_Bye_06.ogg |
— H15_Bye_07.ogg |
— H15_Bye_08.ogg |
— H15_Bye_09.ogg |