Lore
- History of the Elder
-
Another child was taken last night, so tonight we wait, praying the demon does not return, but it does. It soars through the air and passes through the wall of the hut. We catch only a glimpse of its grey skin beneath the moonlight. We pursue the demon on foot to the edge of the woods. The child it carries does not cry out.
-
Anaris follows closely, but I hesitate out of fear. I gather my will and I leap into the shadows, tracking the demon by the tendrils left in its wake. But I am too late. The demon and child are gone, and Anaris stands frozen, pale as the moon. He whispers something I do not understand and falls, dead. I fear we will be hunted to extinction.
-
พวกนั้นเรียกว่า Elder เป็นตัวตนของความบ้าคลั่ง ที่ถือกำเนิดขึ้นมาก่อนทุกสรรพสิ่งรวมกาลเวลา แต่ก่อนเป็นแค่ความรู้สึกที่ไร้รูปร่าง แต่ Elder ได้รูปร่างกายภาพมาจนได้ และเข้ามายังโลกเรา มันสร้างความวุ่นวายและโลกลึกลับเพื่อจะใช้เป็นสถานที่ล่า "โลกลึกลับ" นี้ไม่ต้องสงสัยว่าต้องเป็นดินแดนความฝันที่ข้าไปเจอแน่
Elder หิวโหยจึงต้องมาที่นี่ และชื่นชอบเหยื่อวัยรุ่น มันกลายเป็นปีศาจของเด็กๆ ลากเด็กๆ เราไปในยามค่ำ พาเข้าไปสู่ดินแดนเงามืดและกัดกินฝันร้ายของพวกเด็กๆ อย่างสบายใจ เพราะจินตนาการคืออาหารโอชะของมัน
อาหารแบบนั้นทำให้ Elder อยากสร้างบางอย่าง...เพื่ออยู่รอดและสร้างเป้าหมายใหม่ คือการกำเนิดร่างแท้จริงของมัน ความว่างเปล่านอกกาลเวลาและกาลอวกาศ ก็คือ Decay
เหล่าเทพช่วยข้าด้วย.....มือข้ายังสั่นเทิ้มขณะเขียนเรื่องราวนี้ และข้าพยายามเพ่งสมาธิไปที่งานตรงหน้า Elder ไง เราฆ่ามันไม่ได้ พวก Watcher เลยสร้างอุปกรณ์เพื่อท่องไปปิดตายอาณาจักรแห่งความทรมานของมัน พวกนั้นพกดาบที่ข้าเห็น เรียกว่า Starforge อาวุธที่พรากวิญญาณออกจากร่างได้ เพื่อให้ Elder ได้หลับไปตลอดกาล... ในรังของมันท่ามกลางฝันร้ายของเหล่าเด็กๆ เจ้า Elder จะถูกขังในนั้นให้อดอยาก หาเหยื่อใหม่ไม่ได้
แต่ถึงร่างจะติดอยู่ในหิน วิญญาณของมันก็ยังเป็นอิสระ ข้าพบมันแล้ว แล้วถ้าคนอื่นเข้าดินแดนความฝันไปพบมันได้ละ? แล้วถ้าเป็น Venarius? การพบกันของข้าและ Elder ทำให้มันตื่นเต้นและคันมืออีกคร้ง ข้าต้องหาทางหยุดมันก่อนที่มันจะหาทางเป็นอิสระได้ ถ้าไม่ใช่เพื่อข้า ก็เพื่อลูกสาวข้าหนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 9"
- ค่าต้านทาน
- The Watchers of Decay
-
พวกเขาแต่ละคนต่างต่อต้านสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาไม่มีวันเข้าใจ
อย่าว่าแต่พิชิตเสียด้วยซ้ำ แล้วพวกเขาแต่ละคนต่างถูกกลืน
ไปเป็นส่วนหนึ่งของมันUniques##Watcher's Eye
-
ข้ามั่นใจว่าเจ้าก็สังเกตได้มากเท่าข้า เจ้าผู้พลัดถิ่น เจ้า ข้า และพ่อข้าไม่ใช่กลุ่มแรกที่เข้ามายังโลกนี้ มีร่องรอยเหยื่อของ Elder กระจายทั่วไปหมด ทั้งความทรงจำ และการพูดถึงเหล่าคนที่ต่อสู้กับมันครั้งแรก
เราอาจจะได้เรียนรู้ทุกอย่างจาก Watcher of Decay ได้ ขณะที่เจ้ากำลังง่วนกับการฟาดฟันปีศาจร้าย ข้าใช้เวลาสำรวจห้องทดลองของพ่อข้าอีกครั้งเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับพวก Watcher นี่ ข้าหาอะไรที่เกี่ยวข้องกับพวกนั้นในยุคของเราไม่ได้เลย แต่ยังมีม้วนเอกสารเก่าๆ ซ่อนอยู่ใต้พื้นห้อง ที่กล่าวถึงรายละเอียดของพวกนั้น ว่าเคยมีตัวตนอยู่ในยุคเก่านานแสนนาน
พวก Watcher อ้างว่าเริ่มจากเทพไร้นามของ Wraeclast ผู้หนึ่งที่ได้ข้อมูลมาจากแม่ชาว Azmeri ที่รู้จักตัวตนของ Elder นางเสียลูกไปเมื่อหลายเดือนก่อนอย่างที่เจ้าเห็น และกำลังหาวิธีล้างแค้น บางทีเทพนั่นอาจจะอยากช่วยนาง เพราะสงสารหรือ? หรือเพราะความรู้นั่นเป็นคำสาป? -
ข้าศึกษา Elder และการต่อสู้ของมันกับ Watcher of Decay เพิ่มแล้ว ข้ารู้สึกกลัวสิ่งที่พวก Watcher เจอ จากน้ำมือของเจ้าสิ่งนั้นน่ะ
คนพวกนี้ ล้วนแล้วแต่เป็น...พ่อแม่ เหมือนกับว่า Elder ชอบล่าเหยื่อวัยเด็กและ...อ่อนนิ่ม ชายหญิงเหล่านี้ต่อสู้สุดชีวิตเพื่อล้างแค้นให้ลูกๆ และสำเร็จด้วยถึงจะไม่ได้นาน Elder เป็นอิสระเกือบตลอด 20 ปี รสนิยมของมันบอกได้เลยว่าทำไมเด็กๆ ถึงหายไปอย่างต่อเนื่องทั้งใน Wraeclast และ Oriath
ถ้าเด็กพวกนั้นยังอยู่ที่นี่ละ? กลายเป็นสัตว์ร้ายบิดเบี้ยว ทรมาน พยายามยึดเหนี่ยวชิ้นส่วนความสุขเก่าๆ ที่ยังเหลือ เราต้องปลดปล่อยพวกนั้นนะ - ภาคีแห่งจินน์
-
อีกรินผู้เยาว์ นิมิตของเจ้านำเหล่าแอสเมรีไปสู่โลกที่ถูกทอดทิ้งโดยพวกวาล์
พวกมันขับไล่เจ้า แต่ภาคีแห่งจินน์พร้อมยอมรับเจ้า -
อีกรินแห่งความมืดระหว่างหมู่ดาว ผู้พูดความจริงที่แปดเปื้อน
เราขอสาปแช่งเจ้าผู้ที่วิญญาณสะท้อนเสียงบ้าคลั่งของความว่างเปล่า! -
อีกรินแห่งความมืดระหว่างหมู่ดาว ผู้หลอมดาบผนึก
ขอให้ชื่อของท่านถูกไถ่ถอนจากการเสียสละอันไม่คาดคิดของท่าน -
เบทูเชียผู้เยาว์ เจ้าหาได้เป็นเด็กกำพร้านิรันดร์อีกต่อไป
จากนี้ไปภาคีแห่งจินน์จะเป็นครอบครัวใหม่ของเจ้า -
เบทูเชียผู้ทรงเกียรติ ด้วยความกล้าหาญและซื่อสัตย์ของเจ้า
เราภูมิใจที่จะมอบหมายการเก็บวัตถุโบราณแห่งความฝันไว้ในมืออันคู่ควรของเจ้า -
เบทูเชีย ผู้ถือครองดาบผนึก การเสียสละของท่านทำให้ภาคีแห่งจินน์รอดมาได้
แต่เราจะเจ็บปวดตลอดไปจากการสูญเสียเจ้า -
เคียนกาผู้เยาว์ พวกมนุษย์ยอดเขาเห็นว่าเจ้าไม่บริสุทธิ์
แต่ภาคีแห่งจินน์มองเห็นความแข็งแกร่งในความไม่เหมือนใครของเจ้า -
เคียนกาแห่งหมู่ดาว ผู้ฝันไกล เธอผู้เป็นดวงดาราอันหนาวเย็น!
เราขอมอบนามนี้ให้ผู้ซึ่งสามารถพูดกับสิ่งสุดพรรณนาได้ -
เคียนกาแห่งหมู่ดาว ผู้มอบดาบผนึกให้กับเหล่าผู้เฝ้าระวัง ไปเถิด
ให้ชีวิตกึ่งฝันของเจ้าได้รอดพ้นจากฝันร้ายของความหิวโหยไร้สีเสียที -
พวกนั้นเรียกว่า Elder เป็นตัวตนของความบ้าคลั่ง ที่ถือกำเนิดขึ้นมาก่อนทุกสรรพสิ่งรวมกาลเวลา แต่ก่อนเป็นแค่ความรู้สึกที่ไร้รูปร่าง แต่ Elder ได้รูปร่างกายภาพมาจนได้ และเข้ามายังโลกเรา มันสร้างความวุ่นวายและโลกลึกลับเพื่อจะใช้เป็นสถานที่ล่า "โลกลึกลับ" นี้ไม่ต้องสงสัยว่าต้องเป็นดินแดนความฝันที่ข้าไปเจอแน่
Elder หิวโหยจึงต้องมาที่นี่ และชื่นชอบเหยื่อวัยรุ่น มันกลายเป็นปีศาจของเด็กๆ ลากเด็กๆ เราไปในยามค่ำ พาเข้าไปสู่ดินแดนเงามืดและกัดกินฝันร้ายของพวกเด็กๆ อย่างสบายใจ เพราะจินตนาการคืออาหารโอชะของมัน
อาหารแบบนั้นทำให้ Elder อยากสร้างบางอย่าง...เพื่ออยู่รอดและสร้างเป้าหมายใหม่ คือการกำเนิดร่างแท้จริงของมัน ความว่างเปล่านอกกาลเวลาและกาลอวกาศ ก็คือ Decay
เหล่าเทพช่วยข้าด้วย.....มือข้ายังสั่นเทิ้มขณะเขียนเรื่องราวนี้ และข้าพยายามเพ่งสมาธิไปที่งานตรงหน้า Elder ไง เราฆ่ามันไม่ได้ พวก Watcher เลยสร้างอุปกรณ์เพื่อท่องไปปิดตายอาณาจักรแห่งความทรมานของมัน พวกนั้นพกดาบที่ข้าเห็น เรียกว่า Starforge อาวุธที่พรากวิญญาณออกจากร่างได้ เพื่อให้ Elder ได้หลับไปตลอดกาล... ในรังของมันท่ามกลางฝันร้ายของเหล่าเด็กๆ เจ้า Elder จะถูกขังในนั้นให้อดอยาก หาเหยื่อใหม่ไม่ได้
แต่ถึงร่างจะติดอยู่ในหิน วิญญาณของมันก็ยังเป็นอิสระ ข้าพบมันแล้ว แล้วถ้าคนอื่นเข้าดินแดนความฝันไปพบมันได้ละ? แล้วถ้าเป็น Venarius? การพบกันของข้าและ Elder ทำให้มันตื่นเต้นและคันมืออีกคร้ง ข้าต้องหาทางหยุดมันก่อนที่มันจะหาทางเป็นอิสระได้ ถ้าไม่ใช่เพื่อข้า ก็เพื่อลูกสาวข้าหนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 9"
- Valdo Caeserius and the Release of the Elder
-
ข้าคือ Valdo Caeserius หัวหน้าอาร์คอนในวิทยาลัย Oriath ใน Theopolis ผู้รับใช้ High Templar Venarius
ข้าเริ่มเขียนหนังสือนี้เป็นบันทึกเหตุการณ์ หวังว่าการเขียนบรรยายเรื่องสยองนี่จะช่วยให้เข้าใจเรื่องราวได้ นานมาแล้ว ข้าได้รับหน้าที่ซ่อมแซมอุปกรณ์ประหลาดที่ถูกส่งมาถึงข้า เครื่องจักรทองคำที่เจอในซากของ Wraeclast คือเทมพลาร์เชื่อว่ามีความลับจากนรกซ่อนอยู่จึงขอให้ข้าซ่อมแซมมันและใช้มันเป็นอาวุธ
ตอนแรกข้าก็นึกว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่น่าสังเกตว่าลูกสาววัย 5 ขวบของข้าที่เคยเงียบๆ ต่อมาเจอแต่ฝันร้ายและดิ้นรนยิ่งกว่าอะไรที่ข้าเคยเห็น ตอนที่ข้าใช้เวลาเป็นอาทิตย์ๆ ไปกับการซ่อมของข้าคิดว่านางคิดถึงแม่ และกำลังเศร้าเสียใจอยู่ ตอนนี้กลับไปดูอีกทีข้าสงสัยว่ามันต้องเป็นสัญญาณอะไรสักอย่างแน่ๆ
ข้าเคยคิดปฏิเสธ Venarius แต่ไม่ได้จริงจังนัก การเมืองส่วนตัวข้าก็คือเรื่องส่วนตัว ข้าไม่ค่อยอยากจะทำตามคำขอและกฎของเขาสักเท่าไหร่ มีแต่ความกระหายอำนาจและเกลียดชัง ข้าเสียดายยิ่งที่ดันทำตาม เพราะข้ารู้จักหลายบ้านที่กล้าปฏิเสธแล้วโดนอุ้มหายไปเลยหนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 1"
-
อุปกรณ์อยู่บนโต๊ะทำงานข้า แตกสลายเป็นชิ้นๆ ตอนนี้ข้าอับอายที่จะยอมรับว่าข้าไม่เคยถามเลยว่าของนี้เป็นของใคร ข้ามัวแต่ยุ่งกับการประกอบของเล็กๆ โดยไม่สนว่าประกอบเสร็จแล้วจะเป็นอะไร ข้าคิดถึงแต่ว่ามันประกอบยังไง จนสุดท้าย ความกลัวเย็นเยียบก็กลืนกินข้า
ข้าประกอบมันกลับไม่ได้--ไม่ว่ามันคืออะไร มันดูเหมือนจะใช้งานได้นะ แต่มีบางส่วน...ที่สำคัญที่มันหายไป แย่กว่านั้นก็คือชิ้นส่วนที่ว่ามัน....ไม่มีตัวตน ไม่ใช่ในโลกของเรา เจ้าสิ่งที่ทำให้เจ้าของนี่ทำงาน สิ่งที่ดูเหมือนว่างเปล่าอย่างอธิบายไม่ได้ ข้าทำได้แค่จินตนาการในหัวสมองว่ามันจะเป็นอะไร
ความคิดข้าล่องลอยไปเหมือนความฝันในช่วงตื่นใหม่ๆ ข้าพยายามอย่างหนักในการหาคำตอบ อดหลับอดนอนอยู่นานกว่างานทุกชิ้นที่ข้าเคยทำ จนสุดท้ายข้าก็ผล็อยหลับไปคาเครื่องนั่นเลยหนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 2"
-
ข้าตื่นมาเจอสถานที่สวยงามที่สุดที่เคยเห็น ท้องฟ้าสีน้ำเงินสดใสผิดกับสีเทาของโอริอาท นกโผบินบนท้องฟ้าส่งเสียงร้องอย่างสำราญ ลมอุ่นๆ พัดต้องหน้าข้า ใบหญ้าไสวอยู่กับผิวหนังข้า ข้าไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แม้จะสงสัยว่าที่นี่เกี่ยวข้องกับเจ้าเครื่องที่อยู่บนโต๊ะทำงานของข้าก็ตาม
ข้าเดินเรื่อยไปบนผืนดินใหม่นี้จนเริ่มรู้สึกได้ว่าข้าไม่ได้อยู่ลำพัง ข้าหาความสงบภายในทุ่งหญ้าจนเจอผู้ร่วมทาง เขาเป็นเงาผู้หนึ่ง - เป็นเสียงกระซิบของกลุ่มควันที่มองแทบไม่เห็นท่ามกลางทุ่งเขียวขจี มันผุดขึ้นมาคุยกับข้า ไม่ได้ผ่านวาจา แต่ผ่านความคิด ภาพ สี ความรู้สึก ที่เข้ามาในใจข้าเหมือนสายน้ำพุ่งทะลักออกมาจากรอยแตกบนผืนดิน
เงานั้นต้อนรับข้าสู่ดินแดนของเขาและถามว่าข้ามาถึงได้อย่างไร ข้าอยากได้คำตอบมากเสียจนยอมบอกทุกอย่าง รายละเอียดเกี่ยวกับโอริอาท ลูกสาวข้า และเจ้าเครื่องที่ข้าสงสัยว่าเป็นต้นเหตุพาข้ามาที่นี่หนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 3"
-
ร่างเงาเฝ้ามองนักปราชญ์ด้วยความอดทนดังราชสีห์รอตะครุบเหยื่อ
Uniques##Cyclopean Coil
-
Shade พยักหน้าให้ข้าเหมือนคนใช้ความคิด ข้าว่ามันรู้เรื่องอุปกรณ์ เครื่องมือที่เป็นประตูระหว่างโลกข้าและโลกความฝัน เท่าที่มันบอกข้า อุปกรณ์นี้มันหายไปนานมาก เหล่าผู้ร้ายและโจรทำลายและแยกชิ้นส่วนมัน Shade ดีใจมากที่มีคนพบ และยินดีจะช่วยข้าหาชิ้นส่วนสุดท้ายที่เหลือ
ฟังดูดีเกินจริงมากๆ เราจะสามารถเปิดประตูระหว่างสองโลก และสิ่งดีๆ จากที่นี่จะไหลเข้าไปยัง Oriath ให้เราไปสู่ยุคใหม่ที่เจริญรุ่งเรือง ข้ายินดีร่วมมืออย่างที่สุด เพราะข้ากลัวแทนลูกสาวข้าหากปล่อยให้ High Templar Venarius ได้มีอำนาจต่อไป และตอนนี้ก็ยังกลัวอยู่ Shade ขอแค่ให้ข้าพร้อมตอบแทนเมื่อเวลามาถึง
และข้าก็นอนลงบนทุ่งหญ้าเย็นสบาย อาบแสงอาทิตย์อุ่นจนหลับไปอีกครั้ง เว้นแต่ว่าเมื่อข้าตื่นมาก็พบว่ากลับมาอยู่ในห้องวิจัยเย็นๆ มืดๆ เหงาๆ อีกครั้งหนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 4"
-
เวลาผ่านไปนับอาทิตย์ อาทิตย์ขึ้นลงผลัดกับดวงจันทร์นับครั้งไม่ถ้วน และทุกคืนข้าก็นอนหลับตรงฐานของเจ้าสิ่งแปลกนี้ แล้วตื่นมาอยู่อีกโลกหนึ่งภายในตัวข้า ข้าสามารถก้าวมาสู่ดินแดนความฝันได้
ตอนข้าหลับ ข้าฝากตัวเองเป็นลูกศิษย์ของ Shade ให้มันสอนข้าเกี่ยวกับสถานที่ประหลาดนี้ ข้าเรียนรู้วิธีเสกของขึ้นมาจากจินตนาการของข้า เสกมันจากอากาศราวกับเป็นยอดคาถา และด้วยการบังคับจิตใจนี้เองที่ข้าเริ่มสร้างชิ้นส่วนที่หายไปตามคำบอกของ Shade และที่ยิ่งกว่านั้นคือการเอาสมบัติที่ข้าสร้างขึ้นมาได้กลับไปยังโลกของข้า
เมื่อ High Templar Venarius มาพบข้าในช่วงเวลาทำการ ข้าโกหกและอ้างไปเรื่อยๆ ข้าเริ่มโอหัง และไม่อยากให้เขาพบพลังอำนาจของข้า ข้าอยากให้ดินแดนความฝันนี้เป็นความลับของข้าแต่ผู้เดียว แม้แต่ลูกสาวข้าก็จะไม่มีวันรู้เรื่องนี้...หนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 5"
-
สุดท้ายข้าก็สามารถสร้างชิ้นส่วนสุดท้ายที่หายไปได้ เป็นชิ้นส่วนประหลาดที่เก็บภาพแผนที่โบราณเอาไว้ วันนั้นเองที่ Shade ขอให้ข้าตอบแทนบุญคุณหนึ่งเดียว
ภาพในอดีตผุดขึ้นมาในหัวข้า ภาพของ Shade ในฐานะราชาแห่งดินแดนความฝันทั้งมวล ข้าเห็นอาณาจักรที่สงบร่มเย็นและสูงส่ง และเงามืดที่ปกคลุมอาณาจักร กลุ่มชายหญิงผู้เกลียดชัง พวก Watcher of Decay ผงาดขึ้นมาทำลาย Shade ด้วยการสร้างใบมีดทรงพลังที่พรากวิญญาณของราชาออกจากร่าง และสาปส่งวิญญาณให้ล่องลอยไปในอาณาจักร ขณะที่ร่างกายแข็งเป็นหิน และพวกมันก็ยึดอาณาจักรไป
ข้าตะลึงมาก! พวกมันทำสิ่งโหดร้ายกับราชาผู้ถ่อมตนนี้ได้อย่างไร? แล้วตอนนี้พวกเลวนั่นอยู่ที่ไหน? พวกมันนี้เองที่ขโมยเครื่องนี้ไปใช่ไหม? พวกมันหรือที่ตัดเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างโลก และทำลายมัน?
Shade พาข้าลึกไปในป่าดำมืด เข้าไปในถ้ำที่ถูกลืม นำทางไปให้ข้าเห็นรูปปั้นหินอ่อนสีดำสนิท มีดาบเหมือนกับที่ข้าเห็นจากในนิมิตปักอยู่ รูปจำลองนี่น่ากลัวยิ่งนัก น่าสะพรึงที่ได้เห็น รูปสัตว์ร้าย--ที่ดุร้ายและน่ารังเกียจยืนอยู่กลางแท่นโบราณทำจากไม้และกระดูก ข้ารู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันทีเมื่อ Shade เข้าหาข้าจากด้านหลัง.......
หนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 6"
-
"ดึงดาบออกจากอกข้าสิ" Shade สั่งการข้าทั้งด้วยภาพและความคิด "เอาดาบออก ปลดปล่อยข้า" ข้าก็กำลังจะยื่นมือไปดึงดาบตามที่สั่ง แต่ข้ารู้สึกได้ถึงความกลัวที่รุนแรงเข้ามา และเป็นครั้งแรกที่ข้านึกสงสัย ข้าสงสัยว่าเจ้าสิ่งนี้พูดความจริงหรือไม่ ข้าเลือกที่จะหยุดไว้ก่อน เพื่อถามคำถามและพยายามเข้าใจเจ้าสิ่งนี้มากขึ้น และข้าก็บอกปฏิเสธไปด้วยความกังวลใจ
แค่บอกว่าจะไม่ทำตาม Shade ก็โกรธจัด! มันกลายเป็นสีแดงเพลิงด้วยความแค้น และถึงมันจะพูดไม่ได้ เจตนาของมันก็ชัดเจน ข้ารู้สึกเหมือนจิตใจข้าถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ด้วยภาพการฆาตกรรมและการทำลาย ข้ากำลัง....ทำบางสิ่ง บางสิ่งที่เลวร้ายต่อคนที่ข้ารัก...ต่อลูกสาวข้า
ข้าตกใจจนหนีออกจากถ้ำ ผ่านป่ามืด พลางสาปแช่งตัวเองที่หลงเชื่อตัวประหลาดนี่สนิทใจ สุดท้ายแล้วข้าก็พบหลุมร้างเล็กๆ ให้เข้าไปหลบอยู่ด้วยความสิ้นหวัง Shade ลอยผ่านไป ตัวยังลุกโชนด้วยความโมโห มันพยายามค้นหาตัวข้า ข้าตัวสั่นด้วยความกลัว ขยะแขยง ข้าร้องไห้เงียบๆ จนหลับไป และตื่นมาในห้องของข้าอีกครั้ง
เมื่อข้ากลับมา ข้าวิ่งไปตามถนน กลับถึงบ้านตอนมืดสนิท เข้าไปหาลูกสาวข้าในห้องนอน ข้าปลุกนางให้ตื่นและกอดนางไว้แน่น ข้าทั้งสั่นทั้งร้องไห้และบอกว่าจะไม่ปล่อยนางไปไหนอีกหนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 7"
-
เวลาหลายเดือนผ่านไปตั้งแต่ข้าหลบอยู่ในหลุมนั่น ในเมื่อ Shade เปิดเผยตัวตนจริงๆ ออกมาแล้ว ทุกๆ วันพิษความกลัวหนืดๆ รัดตัวข้าแน่นขึ้นเรื่อยๆ และทุกเช้าข้าก็ขังตัวเองไว้ในห้องทำงาน จมอยู่ในกองหนังสือลึกที่สุดที่ข้าหาได้ หาความรู้ที่มืดมนจากนรกที่จะช่วยเราจากสิ่งที่ข้าหนีออกมาได้
ข้าเกือบจะทิ้งความหวังเพราะข้าแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ Shade และ "ดินแดนความฝัน" จนกระทั่งเช้านี้ที่ของจาก Eramir ยอดนักปราชญ์ที่ข้านับถืออย่างสูงมาถึงข้า ข้าเปิดอ่านทุกจดหมาย ทุกหนังสือที่เขาส่งมา และสุดท้ายข้าก็พบข้อมูลบางอย่างที่ข้าอาจจะใช้ได้
พวก Watcher of Decay มีตัวตนอยู่จริงๆ ในอดีตกาลของโลกเรา และตอนนี้ข้าก็มีผลงานบางส่วนของพวกนั้น ความเป็นมาที่แท้จริงของพวกนั้น มัน....มันไม่อาจจะบอกกล่าวได้ ข้าลังเลที่จะบันทึกมันตอนนั้น ขนาดตอนนี้ยังลังเล แต่อย่างไรเสียข้าก็เป็นอาร์คอน และอาร์คอนต้องบันทึกทุกสิ่ง.....
หนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 8"
-
พวกนั้นเรียกว่า Elder เป็นตัวตนของความบ้าคลั่ง ที่ถือกำเนิดขึ้นมาก่อนทุกสรรพสิ่งรวมกาลเวลา แต่ก่อนเป็นแค่ความรู้สึกที่ไร้รูปร่าง แต่ Elder ได้รูปร่างกายภาพมาจนได้ และเข้ามายังโลกเรา มันสร้างความวุ่นวายและโลกลึกลับเพื่อจะใช้เป็นสถานที่ล่า "โลกลึกลับ" นี้ไม่ต้องสงสัยว่าต้องเป็นดินแดนความฝันที่ข้าไปเจอแน่
Elder หิวโหยจึงต้องมาที่นี่ และชื่นชอบเหยื่อวัยรุ่น มันกลายเป็นปีศาจของเด็กๆ ลากเด็กๆ เราไปในยามค่ำ พาเข้าไปสู่ดินแดนเงามืดและกัดกินฝันร้ายของพวกเด็กๆ อย่างสบายใจ เพราะจินตนาการคืออาหารโอชะของมัน
อาหารแบบนั้นทำให้ Elder อยากสร้างบางอย่าง...เพื่ออยู่รอดและสร้างเป้าหมายใหม่ คือการกำเนิดร่างแท้จริงของมัน ความว่างเปล่านอกกาลเวลาและกาลอวกาศ ก็คือ Decay
เหล่าเทพช่วยข้าด้วย.....มือข้ายังสั่นเทิ้มขณะเขียนเรื่องราวนี้ และข้าพยายามเพ่งสมาธิไปที่งานตรงหน้า Elder ไง เราฆ่ามันไม่ได้ พวก Watcher เลยสร้างอุปกรณ์เพื่อท่องไปปิดตายอาณาจักรแห่งความทรมานของมัน พวกนั้นพกดาบที่ข้าเห็น เรียกว่า Starforge อาวุธที่พรากวิญญาณออกจากร่างได้ เพื่อให้ Elder ได้หลับไปตลอดกาล... ในรังของมันท่ามกลางฝันร้ายของเหล่าเด็กๆ เจ้า Elder จะถูกขังในนั้นให้อดอยาก หาเหยื่อใหม่ไม่ได้
แต่ถึงร่างจะติดอยู่ในหิน วิญญาณของมันก็ยังเป็นอิสระ ข้าพบมันแล้ว แล้วถ้าคนอื่นเข้าดินแดนความฝันไปพบมันได้ละ? แล้วถ้าเป็น Venarius? การพบกันของข้าและ Elder ทำให้มันตื่นเต้นและคันมืออีกคร้ง ข้าต้องหาทางหยุดมันก่อนที่มันจะหาทางเป็นอิสระได้ ถ้าไม่ใช่เพื่อข้า ก็เพื่อลูกสาวข้าหนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 9"
-
พวกเขาหวังว่าสิ่งมีชีวิตนี้ที่ถูกจองจำ
จะแก่และตายไปตามธรรมชาติ
แต่สิ่งชั่วร้ายนี้กลับเป็นอมตะUniques##Nebuloch
-
แม้ร่างกายจะถูกจองจำในหิน
วิญญาณยังคงล่องลอยเป็นอิสระ
เรียนรู้ และเตรียมตัวUniques##Impresence
-
เวลาผ่านมานานนับแต่ข้าบันทึกครั้งล่าสุด เท่าที่รู้ ข้าใช้ทุกขณะที่ตื่นหาวิธีหยุดยั้งเจ้า Elder ผู้ชั่วร้ายนี้ แต่ยังหาวิธีไม่ได้เลย
ข้าเริ่มสร้างอุปกรณ์ของตัวเองในห้องทำงานของข้า อุปกรณ์แผนที่ของพวก Watcher ออกแบบมาเพื่อให้เข้าไปปิดตายมิติที่ Elder สร้างขึ้นก็จริง แต่ของข้าต่างออกไป แม้จะไม่ต่างกันมากขนาดนั้น
ข้าง่วนกับการสร้างอุปกรณ์นี่ทั้งวันทั้งคืน และหากข้าทำเสร็จ Elder จะไม่ได้มาเหยียบโลกของเราอีก เจ้าสิ่งนี้ฆ่าไม่ตาย และถอดวิญญาณมันออกจากร่างก็ไม่ทำให้มันเงียบได้ แต่บางที แค่บางทีข้าอาจจะไล่มันออกไปได้หนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 10"
-
ทำไมข้าถึงได้โง่ปานนี้? ฝันร้ายนี่ครอบงำข้าจนข้าลืมทำงานในฐานะของอาร์คอนไปเลย! เพราะข้าทำงานเกี่ยวกับอุปกรณ์แผนที่ไปได้ "ไม่ถึงไหน" High Templar ก็เลยสงสัยข้าแล้ว
ตอนเที่ยงวันเมื่อข้าใกล้เสร็จงาน เขาและองครักษ์ก็เข้ามาขัดจังหวะข้าด้วยความโกรธขึ้ง และปาอุปกรณ์ของข้าลงกับพื้น เขาทำลายผลงานวิจัยส่วนใหญ่ของข้า และถามว่าทำไมข้าไม่ทำงานที่ได้รับสั่ง ข้าถูกใส่ตรวนลากไปยังคุก Theopolis ฐานขัดคำสั่ง
ข้าเขียนตอนนี้ได้เพราะว่าในกลุ่มองครักษ์เทมพลาร์ยังมีเพื่อนใจดีอยู่ เขารู้ว่าข้าชอบเขียนบันทึกมาก และเมื่อข้าถูกจับเขาก็ส่งบันทึกมาให้ข้าเขียน
ข้าไม่รู้ว่า Venarius มีแผนจะทำอะไร ข้าได้ยินว่าจะมีการลงแส้และแห่ประจาน แต่ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ที่แน่นอนคือ Elder กำลังจะมาหาเรา เราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทาส Karui ผู้ต่ำต้อยที่สุด หรือจะเป็น High Templar ก็หนีไม่พ้น Elder จะกำเนิด Decay ข้าต้องหาวิธีหนีออกไปจากที่นี่ไม่ว่าอย่างไร มีแต่ข้าเท่านั้นที่จะช่วย Oriath จากสิ่งชั่วร้ายนอกศาสนานี้หนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 11"
-
ลูกสาวข้า ลูกสาวที่รักของข้า เหล่าทวยเทพโปรดช่วย มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ข้าเขียนครั้งก่อน ความสยองขวัญมากมาย ข้าไม่อาจเสียเวลาเขียน แต่ข้าต้องทำ ข้าต้องเขียนว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นวิธีเดียวที่จะรักษาสติของข้า ข้าเชื่อว่าตอนนี้ยังคงปลอดภัยอยู่ ข้าก็จะขอพักและหวนคิด หวังว่าข้าจะพบวิธีอยู่รอดใหม่ๆ ในภัยพิบัตินี้
เจ้าบ้า Venarius นั่นไม่พอใจที่ข้าไม่อาจสร้างอาวุธได้ตามสัญญา เขาแห่ข้าประจานไปตามถนนตะโกนว่า "ชายผู้นี้หักหลังข้า!" ข้าเปลือยล่อนจ้อนและพวกทหารก็โบยตีข้า เมื่อข้าเกือบตาย พวกนั้นก็พาข้าเข้าข้างในและถามคำถามว่าทำไมถึงทำเขาผิดหวัง ข้าโง่....เลยบอกทุกอย่างไปหมด
ข้าหวังว่าจะให้จิตสำนึกของเขาช่วย ความดีงามของเขา ว่าจะช่วยจัดกองทัพเทมพลาร์ติดตามข้าไป เพื่อจัดการกับ Elder ให้จบในคราวเดียว แต่เจ้าไม่ควรหวังเรื่องจิตสำนึก เพราะเขาคงไม่มีเหลืออยู่แล้ว Venarius เขา...จับ Zana ไป! เอามีดจ่อนาง และบังคับให้ข้าพาเข้าไปในดินแดนความฝัน เพื่อพบกับ Elder!
ได้โปรด ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครที่ได้อ่านหนังสือนี้ อย่าได้เข้าใจข้าผิด หากลูกสาวเจ้าเป็นอันตราย เจ้าจะทำต่างจากข้าไหมเล่า? ข้า...ทำตามที่สั่ง ใช้อุปกรณ์แผนที่ เราก้าวข้ามประตูไป และเป็นอีกครั้งที่ข้าได้เข้าไปอยู่ในแผนที่โลกนี้...
หนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 12"
-
ดินแดนนี้งดงามเหมือนครั้งล่าสุดที่ข้ามา ลมอ่อนๆ พัดผ่านทุ่งหญ้าและแสงอาทิตย์อาบต้นคอของเรา High Templar และพวกองครักษ์ต่างตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์นี้ ลูกสาวข้าร้องไห้ด้วยความกลัว ข้ารู้สึกแขยงลึกไปจนถึงกระดูก
เราก้าวย่างไปตามทุ่งกว้างและไม่นานก่อนที่เราจะได้พบกับ Shade เอง Elder ล่องลอยอยู่เงียบๆ มองเรานิ่ง ข้ารู้สึกได้ถึงสายตาที่ทอดลึกเข้ามาในผิวหนังข้า มันส่งภาพเข้าหัวข้าด้วยความอยากรู้ว่าทำไมถึงกลับมา แต่ก่อนข้าจะได้ตอบ High Templar Venarius ก็ก้าวออกมาทักทายวิญญาณตนนี้และเอ่ยปากว่า
"เขาบอกข้าว่าเจ้าเป็นราชาของดินแดนนี้" เขาพูด "นักปราชญ์ผู้น่าสงสารบอกว่าเจ้าถูกจองจำและต้องการกุญแจเพื่อปลดปล่อย"
วิญญาณดำมืดเงียบฟังเทมพลาร์พูด
"ข้าเป็นกุญแจให้เจ้าได้" High Templar พูด
Shade ยังเงียบต่ออีกสักพักหนึ่ง ความเงียบงันนั้นหนักอึ้ง กลืนกิน กดทับเราทั้งหมด จากนั้นภาพหนึ่งก็ฉายขึ้นในหัวเราทุกคน เรารู้สึกได้ว่ามันกำลังถาม Venarius
"เจ้าประสงค์สิ่งใด"
High Templar ยิ้มเยาะก่อนตอบ "อำนาจสิ แน่นอนอยู่แล้ว" เขาตอบ
หนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 13"
-
เงามืดนั้นสว่างวาบเป็นดวงไฟขนาดใหญ่และลอยไปยังป่าลึกข้างหน้า High Templar ตามไป ส่วนพวกองครักษ์ก็ลากทั้งข้าและลูกสาวตามไปด้วย ข้าจำได้ว่าเรากำลังไปที่ใด เพราะป่าก็ยังมืดมนเหมือนที่ข้าจำได้ และถ้ำก็เลวร้ายพอกัน ไม่ทันไรเราก็มาถึงรูปจำลองที่ตั้งตระหง่านอยู่บนแท่นป่าเถื่อน
"ดึงดาบออกจากอกข้า"
ความทะนงตัวทำให้เจ้านั่นไม่ลังเลเสียด้วยซ้ำ เขาจับดาบและดึงมันออกมา แผ่นดินนี่สั่นไหวไปหมด! ราวกับว่าผืนดินกำลังตกใจกลัวที่วิญญาณของ Elder จะได้กลับคืนร่าง และจากนั้นร่างของมันก็ทลายเปลือกหินออกมาและเดินเข้าหาเรา ดาบนั่นหลุดจากมือสั่นเทาของ Venarius หล่นลงพื้น แสงขาวบนด้ามดาบกระพริบและหรี่ลงจนถูกความมืดกลืนหายไป ข้ารู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นจึงปิดตาลูกสาวข้าไว้ ขณะที่ Elder ปลดปล่อยทุกอย่างใส่ High Templar และคนของเขา ข้าได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างคนบ้า! แต่ Elder ไม่ได้พูดสิ่งใด ไม่มีภาพอะไรเข้าหัวเราเลย มันเป็นอิสระแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับมนุษย์แล้ว ขณะที่ชีวิตของ High Templar และลูกสมุนถูกสูบนั้นข้าก็เตรียมหนีพร้อมลูกสาว เมื่อ Elder กำลังสูบวิญญาณด้วยความหิวโหยมานับพันปี ข้าฉวยเอาอุปกรณ์แผนที่ที่ Venarius ทำหล่นไว้ และหนีออกไปพร้อมกับลูก....หนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 14"
-
ข้ากลัวว่านี่จะเป็นจุดจบ ไม่ใช่เฉพาะข้า แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง Elder เป็นอิสระแล้ว และอีกไม่นานคงมาสูบชีวิตข้า และจากนั้นก็ลูกสาวข้า หลังจากมันเสร็จกิจกับพวกเรา ก็คงออกล่าคนที่เหลือบนโลกนี้
ห้วงเวลาจะเหมือนแต่ก่อน เมื่อครั้ง Watcher of Decay ถือกำเนิด เด็กๆ จะหายไปจากเตียง พ่อแม่จะโศกเศร้า ความมืดจะครอบคลุม และ Decay จะมาถึง หาร่างในมิติของเรา- เพราะนั้นคือเจ้านายแท้จริงของ Elder! เจ้าปรสิตร้ายนี่จะถือกำเนิดและแพร่กระจายไปทุกทิศทาง เหมือนเชื้อราจากยุคก่อนห้วงเวลาและอวกาศ เพื่อทำลายทุกอย่าง...
ขณะที่เราวิ่งหนีผ่านป่า ข้าตั้งจิตให้แน่วแน่ ตอนนี้ทุกอย่างสายไปสำหรับข้าแล้ว ข้ารู้วิธีการสร้างสรรพสิ่ง มีแต่ข้าเท่านั้นที่มีโอกาสพิชิต Elder ได้ เพราะมันมัวแต่กินจนไม่ได้สนใจเรา เราวิ่งย้อนรอยกลับมาจนถึงประตูมิติ และพุ่งทะลุมันไปโดยไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ และเราก็กลับมายัง Oriath
ข้าไม่เสียเวลา เอาเครื่องมือใกล้ๆ มาแทงใส่เจ้าอุปกรณ์นรกนี่ มันส่งเสียงและฝังตัวอยู่กับพื้นห้องข้า ต้องมีใครสักคนหยุด Elder ข้าเลย...ทิ้งนางไว้นั่น ให้นางเข้าไปหลบอยู่ในตู้หรือใต้โต๊ะ และเมื่อประตูมิติกำลังจะปิดลง ข้าหันหลังกระโดดกลับเข้าไปในดินแดนความฝัน เป็นครั้งสุดท้ายหนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 15"
-
เราต่างโง่พอๆ กันที่หลงเชื่ออะไรแบบเด็กๆ
พลังเสื่อมสลายอันแสนสยองนั้นย่อมไม่อาจแพ้พ่ายต่อการเสียสละตนเอง -
ดาบผนึกถูกปลดออก ตัวแทนแห่งการเสื่อมสลาย
จะกัดกินโลกทั้งใบให้เหลือเพียงเศษฝุ่น -
เหล่าผู้เฝ้าระวังเงียบไปแล้ว แต่พวกเขายังคงกรีดร้อง
มีบางสิ่งบางอย่างย่องตามดวงดาวในฝันของเรา
เคาะประตู กระซิบด้วยเสียงของเพื่อนยากที่จากไปเนิ่นนาน...
Wikis Content is available under CC BY-NC-SA 3.0 unless otherwise noted.