Lore
- การหวนคืนของทวยเทพ
-
ใครต่อใครก็พูดถึง 'การกลับมาของเหล่าเทพเจ้า' ตั้งแต่โอริอาทนั้นถือกำเนิดขึ้นมา มันเป็นการพนันที่กระทำโดยนักต้มตุ๋นเพื่อหลอกผู้ที่มีจิตใจอันอ่อนแอและจนตรอกทางศีลธรรม
หรือไม่มันก็เหมือนจะเป็นเช่นนั้น
อาวาริอุสกับสมุนเทมพลาร์ของพวกเขาต่างตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่โดยมีพลังและมีจุดมุ่งหมายอันทรงเกียรติ คิทาวาได้ฟื้นขึ้นจากหลุมเดนในโลกหลังความตายอะไรสักอย่างที่เขาอิงแอบมาตลอดไม่กี่พันปีที่ผ่านมา
แล้วอะไรเป็นสิ่งที่ปลดปล่อยสิ่งเหล่านี้ออกมาเล่า? ข้าเป็นนักวิชาการ ไม่ใช่หมอดู แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่มีหลักอันเป็นเหตุเป็นผลอย่างเด่นชัด
เจ้าลงมือฆ่าบีสต์ -
ฝันของข้าเหมือนควันดำม้วนลอยไม่คงที่ก็จริง แต่ข้าเห็นบีสต์นอนตายแทบเท้าเจ้า ข้าเห็นเหล่าเทพโบราณผงาดขึ้นมา ซากศพแข็งทื่อฝุ่นจับกลับคืนชีพในฉับพลัน ข้าเห็นพลังเทพแผ่รัศมีปัดเป่าความชั่วร้ายออกไป
ข้ารู้สึกได้ถึงความทรมาน บ้าคลั่งในลมหายใจเฮือกสุดท้ายของบีสต์ ทว่าพลังของข้ายังคงอยู่ ดูเหมือนว่าข้าคงสลัดความแปดเปื้อนนี้ไม่พ้นตัวเสียแล้ว แม้ในยามที่ข้ากำเนิดออกมาจากครรภ์แม่ก็ตาม
ตอนนี้แม่ข้าก็ไม่อยู่ปกป้องข้าแล้วด้วย และเจ้าบีสต์นั่นก็นอนเน่าอยู่ก้นภูเขาสามานย์นั่น -
ข้าจะอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ก็แล้วกัน ที่จริงทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้ด้วยการปลูกเมล็ดพันธุ์ลงไปในดิน เหล่าทวยเทพผงาดขึ้นมาเพราะเจ้าสังหารสิ่งชีวิตตัวหนึ่งที่ขัดขวางไม่ให้พวกเขาได้ตื่นขึ้น เจ้าตั้งชื่อให้สิ่งนั้นว่า "บีสต์"
ข้าเป็นผู้ที่ปลูกเมล็ดพันธุ์ในดินอันอุดมสมบูรณ์ภายใต้ไฮเกท ข้าเลี้ยงดูมัน ข้าดูมันเติบใหญ่ แม้ในยามที่ข้าพ่ายต่อพลังของมันก็ตาม เหล่าทวยเทพอย่างเราถูกความมืดขับกล่อมจนหลับใหล เพื่อให้หลับฝันไปตลอดกาลโดยมีบีสต์ผู้อ่อนโยนคอยเฝ้าดูพวกเราไว้
ข้าเองก็อยากกลับสู่นิทราเช่นนั้น แต่พี่น้องทวยเทพของข้าย่อมไม่ยอมถูกขับไล่ไปเป็นแน่ พวกเขาได้ลิ้มรสอิสรภาพอีกครั้ง พวกเขาย่อมไม่ปล่อยโลกใบนี้ไปจนกว่าจะสิ้นลม - การล่มสลายของโอริอาท
- Innocence, God-Emperor of Eternity
-
ข้าคิดมาตลอดว่าข้ารับใช้ของพระองค์ท่านต่างบิดเบือนเจตนารมณ์ของพระองค์ท่านเสียสิ้น ข้าได้ต่อต้านไหม? ไม่ ข้าคงจะโดนจับไปเผาเพียงเท่านั้น ข้าได้แต่ทำตามคำสั่ง และทำตัวให้อยู่ในศีลธรรมเท่าที่จะเป็นไปได้
ตอนนี้ข้าเข้าใจความจริงแล้ว มันไม่ใช่ว่าเจตนารมณ์ของท่านอินโนเซนถูกบิดเบือน แต่มันเป็นเพราะท่านอินโนเซนถูกทำให้ผิดเพี้ยนจากความเชื่อมั่นอันเห็นแก่ตัวอย่างแรงกล้าของเหล่าชายหญิงที่บูชาพระองค์ท่านต่างหาก
พระเจ้าองค์หนึ่งต่างสนองต่อผู้ศรัทธาดังที่ผู้ศรัทธาสนองต่อพระเจ้าของเขา -
ดวงตาสีแดงอันเก่าแก่นั่น เขาก็เงียบมาเนิ่นนาน เหมือนกับคิทาวา... และทูโคฮาม่า พวกเทพโบราณทั้งหลาย บัดนี้อินโนเซนได้ตื่นขึ้น และเขาก็มีพลังดังที่ข้าไม่เคยเห็นพวกเทมพลาร์ครอบครองมาก่อน
แต่ไม่เป็นไรหรอก พวกเราที่เป็นทาสก็มีพระเจ้าที่ดูแลพวกเราอยู่เช่นกัน ข้ามองเห็นพระองค์ท่านในดวงตาของพี่น้องของเรา ได้กลิ่นของพระองค์ท่านจากเลือดที่เราหลั่ง ได้ยินเสียงพระองค์ท่านเพรียกหาจากเสียงกรีดร้องของผู้วางวาย
ข้าไม่รู้นักว่าพวกเทพเจ้าหายไปไหนมา หรืออะไรทำให้พวกเขากลับคืนมา ข้าไม่สนใจด้วย ที่ข้ารู้น่ะเพื่อน คือเราไม่ได้อยู่ตามลำพังอีกต่อไปแล้ว - Kitava, Father of Chaos
-
คลื่นกระทบชายฝั่งของ Oriath
คลื่นของความหิว
คลื่นแห่งความปรารถนา
เทพผู้หิวโหยและข้าทาสนับไม่ถ้วน
โถมมาพร้อมกับคลื่น
ไหลบ่าท่วมถนนของเราด้วยความตายและความเลวทราม
จนกระทั่ง Innocence ร้องออกมาว่า 'ไม่เอาอีกแล้ว!'
เปลวไฟอาบเมืองของเรา
เผาผลาญคนชั่วเหลือแต่เถ้ากระดูก
เทพหิวโซเผ่นหนี
เข้าสู่อ้อมกอดของผู้กอบกู้ของเรา
ถูกขับไล่ลงดินหินและลึกกว่านั้น
เข้าสู่นรกภูมิ
ด้วยพลังจิตมั่นและแสงสว่างของ Innocence ของเรา
- High Templar Avariusการฉลองชัยของอินโนเซน, "อ่าน"
-
คือ... ข้ารู้จักชื่ออื่นๆ ของพระองค์ท่านนะ วิญญาณสีดำ ราชากินคน เทพเจ้าผู้กระหาย เขาเป็นทั้งหมดนั้นมาโดยตลอด ก่อนที่ทูโคฮาม่าจะกรีดตาเขาออกไป ก่อนที่วาลาโคจะทำให้เขาจมน้ำในทะเล ก่อนที่ฮิเนโคราจะเฆี่ยนตีเขา ประณามให้เขาอยู่ภายใต้ความมืดมิดอมตะไปตลอดกาล
ท่านคิทาวาได้เรียนรู้จากความทุกข์ทรมานที่พระองค์ท่านได้รับ เรียนรู้ถึงความโหดร้ายจากเลือดเนื้อของพระองค์ท่านเอง เรียนรู้ว่าการเป็นทาสนั้นเป็นเช่นไร
บัดนี้พระองค์ท่านโหยหาอิสรภาพ มิใช่อิสรภาพแก่พระองค์ท่านเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นพวกเราทุกคนที่ทุกข์ทรมานจากแส้และโซ่ตรวนอีกด้วย
คิทาวานั้นเป็นผู้ถูกทรมาน ที่มีชะตาในการลุกขึ้นมาจากความมืดมิดแล้วขจัดความโหดร้ายออกไปจากโลกใบนี้ และเรา บุตรของพระองค์ท่าน ก็จะลุกขึ้นมากับท่านเช่นกัน -
Utula has used the fall of Innocence to summon Kitava, the Ravenous God.
Quest, The King's Feast
-
เจ้าไม่รู้หลักเหตุและผลอย่างชัดเจนจริงๆ เลยสินะ ของบางอย่างมันย่อมมาแทนของอย่างอื่น มันเป็นกฎธรรมชาติอันเป็นพื้นฐานที่สุดแล้ว ยิ่งเจ้ากำจัดสิ่งใดที่มีขนาดใหญ่ ก็ย่อมมีการเร่งรีบเข้ามาแทนที่ช่องว่างที่มันทิ้งเอาไว้
อินโนเซนเป็นแก่นกลางของพลังอำนาจในโอริอาท เมื่อเขาถูกกำจัด มันก็ย่อมมีอะไรที่มีพลังอำนาจเท่าเทียมหรือยิ่งใหญ่กว่ามาแทนที่ ไม่ว่าคนโง่หน้าไหนก็ย่อมเดาได้เสมอว่าคิทาวาจะเป็นสิ่งที่มาแทนที่... เว้นแต่เจ้านึกว่าสิ่งนั้นจะเป็นเจ้าเสียเอง -
เจ้าส่งคนทรยศไปหาบรรพชนของเขาแล้วใช่ไหมเล่า? มันคงจะเป็นบทสนทนาที่น่าสนใจน่าดู ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ใช่ฮาทุนโก แต่ข้าพอเห็นภาพว่าอูทูล่าต้องทดสอบตนเองและทรมานมามากมายถึงจะมิโอกาสได้ร่วมโต๊ะกับบรรพชนของเขา
และดังที่การอูทูล่าเดินทางยังไม่สิ้นลง การเดินทางของเจ้าก็ไม่สิ้นลงเช่นกัน ไปสู่คมเขี้ยวของคิทาวา
ข้าไม่อาจอ้างว่าเข้าใจสมองของพระเจ้าได้ แต่ข้าก็เข้าใจเรื่องบอกเล่าอยู่บ้าง คิทาวานั้นใจเย็น เขารอในหลุมอันแสนลึกของดินแดนฮิเนโครา เขาจะรอเวลาขณะที่ความหิวโหยของเขานั้นแพร่กระจายดั่งโรคระบาด และเมื่อเผ่าของเขาขยายตัวเป็นร้อยเท่า คิทาวาจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อทำการสวาปามในงานเลี้ยงที่เขาเริ่มมาแต่แรกให้เสร็จสิ้น โอริอาทนั้นเป็นเพียงของเรียกน้ำย่อย คิทาวายังมีโลกทั้งใบให้ลิ้มรส
เจ้านั้นเป็นที่รู้จักในฐานะวีรชนผู้สามารถฆ่าบุคคลในตำนานได้ มาดูกันเถิดว่าเจ้าจะฆ่าพระเจ้าได้ไหม -
พอใจกับความหิวโหยไปเสียผู้ศรัทธา เพราะความหิวเป็นความสมบูรณ์ของจิตวิญญาณหนึ่งเดียว เมื่อคนหิว คนจะโหยหา ตามพระประสงค์ของเทพ Kitava ผู้ยิ่งใหญ่ สาวกของข้าจงระวังผู้ที่อิ่มและพอใจให้หนัก เพราะผู้นั้นคือมารศาสนาจริงแท้
- The Holy Book of Hunger (คัมภีร์แห่งความหิวโหย) โดย High Priest Utulaคัมภีร์ลัทธิ, "อ่าน"
-
เทพบิดาของเรา คิทาวาผู้ยิ่งใหญ่จะทลายผืนดิน ลากตนขึ้นมาจากบ่อโคลน แล้วจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับเรา ให้ได้สุขสมดื่มกินอาหารที่เทพล่ามาได้
- คัมภีร์แห่งความหิวโหย โดย นักบวชระดับสูงอูทูล่าคัมภีร์ลัทธิ, "อ่าน"
-
มันต้องจบลงแบบนี้ เทพ Kitava จะผงาด กลุ่มควันดำมืดจะปกคลุมท้องฟ้า และกลิ่นเนื้อหอมหวานจะดึงดูดแม้แต่ผู้ไร้ศรัทธาที่ใจแข็งที่สุด และเราจะได้มาร่วมโต๊ะกินกันกับ Kitava
- The Holy Book of Hunger (คัมภีร์แห่งความหิวโหย) เขียนโดย High Priest Utulaคัมภีร์ลัทธิ, "อ่าน"
-
ข้าเป็นเทพ แต่ก็ไม่เคยลืมความเป็นมนุษย์ ข้าห่วงใยสิ่งที่ข้าเคยเป็น คิทาวาจำอะไรไม่ได้เลยและสนใจแต่ความกระหายตะกละตะกลามของตนเองเท่านั้น เป็นหลุมบ่ออันหิวโหยอันไม่อาจเต็ม และฟันที่เคี้ยวไม่รู้สิ้น
ขณะที่เทพองค์อื่นลุกขึ้นเดินดินที่แผ่นดินใหญ่ต่างต่อสู้กันเพื่อแย่งแผ่นดินที่หลงเหลืออยู่ คิทาวากลับมีสุดยอดอารยธรรมที่อุดมสมบูรณ์และน่าเกรงขามในช่วงสมัยของเขาไว้ใช้ตามใจชอบ เขากินได้ตามใจอยาก และเติบโตทุกครั้งที่เขากัดกิน ทั้งโอริอาทจะตกเป็นของคิทาวาในไม่ช้า และหากเป็นเช่นนั้น เขาย่อมเติบใหญ่จนเราไม่อาจหยุดยั้ง -
ข้าคงไม่เชื่อเจ้าถ้าข้าไม่ได้เห็นเรือเซถลาเข้าสู่ฝั่งเวร์แคลส์ทเข้ากับตา งั้น... พวกเทพเจ้าได้กลับมาแล้ว โอริอาทก็พินาศ ว่าง่ายๆ ว่ามันทำให้เรื่องต่างๆ มันซับซ้อนขึ้นไปอีก
เอ็กไซล์ ข้าเชื่อว่าองค์กรมันกำลังพยายามสร้างการปกครองรูปแบบใหม่ พวกเทมพลาร์มันโหดร้าย แต่อย่างน้อยพวกมันก็ตายได้ ถ้าอำนาจขององค์กรแข็งกล้าขึ้นไปอีก พวกมันจะสามารถปกครองเวร์แคลส์ทและที่อื่นได้โดยไม่ต้องกลัวการก่อกบฏ คนธรรมดาที่ตายได้อย่างเราจึงไม่มีตัวเลือกนอกจากยอมสยบ หรือเพิ่มเชื้อไฟให้กับวงจรการเวียนว่ายตายเกิดของพวกมัน - Tangmazu, the Trickster
-
ลาก่อนอินโนเซน สวัสดี ตัวแทนแห่งอนาธิปไตยของข้า เหมือนว่าข้าจะกลับมาทันงานเลี้ยงเสียด้วย...
Tangmazu, ศาลมอดไหม้
- ชายหาดริมฝั่ง
- Tukohama, Father of War
-
คิทาวากระทืบเท้าไปทั่วโอริอาท เหมือนว่าตำนานเทพปกรณัมจะกลายเป็นความจริงเข้าอย่างรวดเร็วนะ
แต่ก็อีก พวกทวยเทพก็ไม่ได้ออกมาจากหัวของกวีคนหนึ่งนี่นา ข้าไม่สามารถเขียนบทกวีถึงเทพแห่งสุราอันหลั่งไหลเป็นนิรันดร์ แล้วหยิบถ้วยออกมารับเหล้าฟรีๆ ได้
ไม่ ข้าคิดว่าพวกทวยเทพเคยกิน ร่ายรำ และขับถ่ายเหมือนกับเจ้ากับข้า แต่เหมือนว่าพวกเขาพร้อมจะทำแบบนั้นอีก... ข้าหมายถึงการกลับมามีชีวิตเนี่ย
ดูอย่างพระบิดาแห่งการศึกของชาวคารุยสิ ทูโคฮาม่าผู้เก่าแก่นั่น เขาไปพักในเสาหลักของคอมม์ แล้วก็ก่อสงครามกันเล่นๆ ราวกับว่าเมื่อไม่กี่พันปีก่อนมันเป็นแค่วันหยุดสุดสัปดาห์อันแสนสงบสำหรับเขา
แต่พอมาคิดดูอีกที... อาจเป็นแบบนั้นก็ได้! -
เทพเจ้าแห่งการศึกเปลี่ยนรูปร่างเขตนี้ไปเสียสิ้น เขามักเป็นผู้ที่... ไร้จินตนาการมาโดยตลอด
Tangmazu, ที่ราบดินโคลน
-
เหมือนว่าทูโคฮาม่าจะสร้างร่างขึ้นมาจากชีวิตหลังความตายถิ่นที่ชาวคารุยเชื่อ ข้าบอกตามตรงเลยว่าสงสารพวกเขามาก ชาวคารุยมีประวัติศาสตร์อันย่ำแย่นัก โดนล่าอาณานิคม ถูกจับเป็นทาส กลายเป็นเบี้ยไปรบครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้ขนาดตายไปก็ยังถูกเทพของพวกเขาจิกหัวใช้อีก
ข้าก็เลยไม่บูชาเทพองค์ไหนเลยไง มันเลวพอๆ กันทั้งนั้น -
ตามคำสั่งของเลือดลดลงออกจากที่อยู่อาศัยของคุณและเติมถ้วยของ Tukohama แล่งหัวของศัตรูของเราจากไหล่ไม่คู่ควรและประดับเข็มขัด Tukohama
และรวมไปถึง Lord of War ผมคุกเข่าด้วยความกล้าหาญที่เท้าของคุณและความต้องการที่จะจมอยู่ในความกล้าหาญของคุณ ให้ฉันมองไปที่ศัตรูของฉันโดยไม่ต้องกลัวการขับรถฉันไปฆ่าโดยไม่ลังเลและเหี่ยวว่าเสียงบาปของจิตสำนึกดังนั้นฉันจะไม่รู้สึกสำนึกผิด สำหรับเรื่องนี้คือสงครามและคุณเจ้านายของฉันเป็นพ่อของตนหินสลักคารุย, "อ่าน"
-
ข้ารู้เรื่องเชื้อสายที่แท้จริงของข้าน้อยมาก แต่ข้าก็รู้มากพอที่จะเข้าใจได้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากชัยชนะที่เจ้ามีต่อเทพคารุยแห่งสงคราม การหลับอันยาวนานของเขาทำให้เขาอ่อนแอใช่ไหม หรือบางทีความเป็นเทพของเขาอาจจะเป็นแค่คำพูดเกินจริงที่เกิดมาจากตำนานเล่าขาน? ไม่ว่าจะเป็นเช่นใด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทวยเทพเพื่อต่อกรกับธาตุแท้ของความมืดอย่างแน่นอน พวกเขาไม่ใช่ผู้พิทักษ์มนุษย์อย่างที่หลายคนเชื่อว่าพวกเขาเป็น
- Abberath, the Cloven One
-
ที่เวร์แคลส์ทนั้นมีวิธีที่เจ้าจะตายได้หลายต่อหลายอย่าง วิธีส่วนใหญ่มันก็ปลิดชีวิตเจ้าอย่างรวดเร็วและมีเมตตา แต่ถ้าเจ้าถูกพวกมนุษย์แพะจับเป็น เจ้าคงจะภาวนาหาพระเจ้าองค์ใดก็ตามที่เจ้าศรัทธาว่าไม่น่าถูกพวกมันจับมาตั้งแต่แรก
ข้าเคยได้ยินจากเอ็กไซล์บางคนที่เชื่อในเรื่องผีสางว่าพวกมนุษย์แพะนับถือเทพเจ้าองค์หนึ่ง แอ็บเบอร์แรธ ผู้สวาปามความทุกข์ทรมาน เหมือนว่าจะเป็นเทพถูกองค์ด้วยนะถ้าเจ้าถามข้า ฉะนั้นหากพวกมนุษย์แพะเชิญให้เจ้าไปทานมื้อเย็นกับเทพผู้มีกีบของพวกมัน บอกพวกมันได้เลยว่าจะไปตายที่ไหนก็ไป -
ข้านึกขึ้นได้ว่ามีเทพอีกองค์ที่ข้าช่วยเกลี้ยกล่อมให้บริจาคแก่นสารเทพเล็กๆ น้อยๆ เพื่อช่วยให้เจ้าสร้างเสริมวิญญาณให้กับเจ้า
แอ็บเบอร์แรธ แพะบ้าเสียสติที่กระหายดวงวิญญาณมนุษย์ ตอนนี้กีบของมันยืนหยัดอยู่ที่ถนนนักโทษเก่า
เจ้าเคยลิ้มรสวิญญาณมาก่อนไหม ผู้สังหารบีสต์? ไม่ ข้าว่าไม่ พวกกวีมักพูดถึงวิญญาณอันอ่อนหวาน วิญญาณอันขมขื่น วิญญาณอันตื่นรู้ และวิญญาณอันเสื่อมทราม รู้ไหมว่าที่จริงวิญญาณพวกนี้มีรสอย่างไรกัน? มันมีรสของความเสียดาย แถมยังทิ้งรส 'ควรจะรู้ดีกว่านี้' ค้างไว้ที่ปลายลิ้นเสียอีก - Ryslatha, the Puppet Mistress
-
ในเมื่อทางไปสู่ป่าฟรีเชียมันสะดวกแล้ว ข้าก็เดินทางไปสู่ป่าที่อยู่ลึกไปจากนั้น เพื่อดูว่าเรื่องประหลาดที่เราพบเจอที่ชายฝั่งมันเกิดขึ้นในส่วนในของเกาะไหม พอข้าได้เห็นกับตา หัวใจข้าก็แทบแน่นิ่ง
พวกสัตว์ที่น่าสงสารที่อยู่ตรงนั้น... ถูกครอบงำโดยปรสิตอะไรบางอย่าง ข้าว่าพวกมันเหมือนปลวก แต่กัดกินเนื้อหนังและจิตใจแทนไม้ หากข้าเข้าใจถูก พวกมันย่อมมีรังกับราชินีอยู่ที่ไหนสักแห่ง หากเจ้าหามันเจอ จงทำลายมันเสีย เราไม่อยากพบเจอปรสิตพวกนั้นแถวนี้แน่ๆ -
เจ้าบอกว่ามีเทพเวรโผล่มาอีกแล้วเหรอ? ใช่ แหงล่ะ เทพเจ้าดึกดำบรรพ์จากยุคสมัยดึกดำบรรพ์ คลานขึ้นมาจากผืนดินเพราะอยากให้ลูกหลานพวกมันจับพวกเราทำเป็นทาสให้หมด
ข้าว่าเราไม่มีทวยเทพแบบนี้น่ะดีแล้ว ฉะนั้น นี่ เอาอะไรสักอย่างไปใช้ในอนาคตเถอะ ดูจากที่มันเป็นอยู่ตอนนี้แล้ว อนาคตน่าจะลำบากแน่ -
แม่ปูชนียบุคคล, Ryslatha หนอนสีขาวที่ corrupts แผ่นดินนานฉันจะได้พักผ่อนในความหวานของเต้านมของคุณและดูดลึกจากจุกนมน้ำผลไม้บำรุงของคุณ
แม่ Mighty O' สำหรับคุณเป็นดกของไข่ผ่านพ้นมันเป็นอำนาจและความอุดมสมบูรณ์ ฉันจะนั่งคร่อมผนังของมดลูกผลของคุณและดูเป็นเด็กของเราเป็นสาวกโลกเนื้อที่นี้ ว่าผมควรจะนอนหลับอยู่ในหมู่เท่าของเนื้อหนังของท่านประกอบที่เป็นมเหสีของความรักของคุณมา Queendomหินสลักสึกกร่อน, "อ่าน"
- Tsoagoth, the Brine King
-
ใช่ ข้ารู้จักราชันน้ำเค็ม โจรสลัดคนไหนจะไม่รู้จักกันเล่า? ข้าเองก็เคยเอาผู้ก่อการกบฏไปถ่วงน้ำในเดือนข้างขึ้นมาหลายต่อหลายคน... เพื่อให้ราชันเก่าแก่นั่นหลับใหลในยามที่พายุเข้าน่ะ
ถ้าเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากเบื้องลึก เขาย่อมเป็นนิมิตอันมืดมนแก่เราทุกคนที่มีอากาศในปอดเป็นแน่
เขาจะกลับมาข่มขืนและกัดกินนักเดินสมุทรอย่างเราในไม่ช้า เขาจะพรากมดลูกเพื่อทำลูกอันเลื้อยลดต่อไป
ใช่ ไอ้สิ่งชั่วช้านั่นยังอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่ๆ แถมยังมีหลายต่อหลายคนที่ต้องออกเดินทางจากโอริอาท... มีรายได้ให้เก็บอีกมากมาย แต่ว่าเทพทะเลตัณหาจัด มันทำให้อะไรซับซ้อนเข้าไปอีก -
พวกเราเคยเรียกมันว่าจ้าวแห่งเกลือกับเปลือกแข็ง พวกเขาว่ากันว่าเมื่อพวกทวยเทพถูกขับไล่จากแผ่นดินของเรา อสุรกายนั่นก็ไปหลับใหลในทะเลลึก มันฝันจนทำให้สิ่งชั่วช้ามีเหงือกปรากฏขึ้นมาจากเบื้องลึก เพื่อตามรังควานและตามล่าพวกเราจากเรื่องที่มันคิดว่าเราทำไว้กับมัน
มีช่วงหนึ่งที่เราได้รับคำสั่งให้ตามล่าพวกมันเสียให้สูญพันธุ์ เพื่อให้เส้นทางค้าขายนั้นปลอดภัยจากการกดขี่ข่มเหงของพ่อน้ำเค็มเก่าแก่นั่น แต่ก็อีก กะลาสีที่มีน้ำยาทุกคนย่อมสังเวยกะลาสีปากเรือไปสักคนสองคนเมื่อเข้าเดือนข้างขึ้น เพื่อให้ไอ้ปูโตเกินขนาดนั่นหลับใหลต่อไปในคูเมืองโอริอาทต่อไป
หากมันฟื้นขึ้นมาใหม่ เราได้ซวยกันหมดแน่ๆ -
ถ้าเทพประสงค์ บทบรรยายสุดท้ายของต้นเรือไพเคน ก็น่าจะอยู่บนเกาะไหนสักเกาะนอกชายฝั่งสนธยา
เท่าที่ข้าบอกได้ ลูกเรือที่เหลือพร้อมกัปตันคารูโซ่ คงตายหมดแล้ว....ไม่ก็แย่กว่านั้น มันเกิดอะไรขึ้น? ข้าคงไม่เชื่อเรื่องนี้ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเอง
ยามย่ำรุ่ง แสงสีเขียวและความมืดผุดขึ้นมาจากเกลียวคลื่นขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเราส่วนใหญ่ตะลึงงัน ข้าได้ยินเสียงร้องเปล่งออกมาจากท้องเรือ ข้ามองไปยังต้นเสียง แล้วก็ได้เห็นคลื่นพวยพุ่ง แล้วเห็นปูทะเลมหาศาลปกคลุมเรือมิดลำ ข้าเห็นปูกระหายเลือดจำนวนนับไม่ถ้วนฉีกร่างพวกกะลาสีเรือกินจนเหลือแค่กระดูกกับเศษเสื้อผ้า!
เราหนีลงเรือเล็กอย่างเร็วที่สุดหวังจะไปให้ไกลจากปูพวกนั้น แต่องค์เทพช่วย ข้าเห็นมันในลำแสงสีเขียวนั่น The Brine King! ราชาเกลือตัวอ้วนใหญ่เหมือนวาฬพุ่งออกมาจาผิวน้ำแล้วฉีกเรือเราเหมือนไม้ขีดไฟ ข้านี่ปลิวกระเด็นลงทะเลแต่ยังดีที่เกาะซากลอยมาติดเกาะนรกนี่ได้
ดูเหมือนว่าเทพเฒ่าซัวกอธ ต้องการจะปกครองท้องทะเลอีกครั้ง กัปตันคารูโซ่คิดถูกแล้วที่จับพวกกบฏมาเซ่นเทพ แย่หน่อยที่เราหาเหยื่อเพิ่มไม่ได้ ตอนนี้ข้าได้ยินเสียงกระซิบแห่งความตาย เสียงก้ามหนีบกระทบกันแกร็กๆ ใต้เกลียวคลื่น ขอเทพเมตตาข้าด้วย และขอให้ทุกคนได้ยินคำเตือนของข้าจดหมายในขวดแก้ว, "อ่าน"
-
ลูกเรือผสมผเสของฉันไม่พอดีจะเลียรองเท้าของฉันมิได้ขดหนวดของฉันมีเลือดทรยศฉันดี และฉันเป็นเพียงคนเดียวที่พยายามจะช่วยพวกเขาเหล่านั้นคงเป็นความจริง แม้ตอนนี้ลอยกราบบนไม้กระดานไม้, อาบน้ำในคุตายของดวงอาทิตย์ตอนเย็นฉันได้ยิน clitter-เสียงดังของล้านกรงเล็บเล็ก ๆ ถ้าผมปิดตาของฉันฉันเห็นหนวดผู้เอื้อมมือขึ้นไปฉันออกจากที่น้ำลึก
ผมไม่ทราบว่าทำไมน้ำเกลือคิงเลือกผม สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเคยได้ยินเสียงกระซิบของการกลับมาของเขา gurgling ของการลงโทษและการเป็นทาสให้เราทั้งหมด ผมพยายามที่จะเตือนคนที่เรียบง่ายของเรือของฉันทำตัวอย่างของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาความรุนแรงมากขึ้น แต่คำทำนายของฉันเท่านั้นที่ทำหน้าที่ในการขับรถเข้าไปในส่วนที่เหลือไม่รู้ดื้อรั้น พวกเขาโยนฉันลงน้ำอาจจะในหวังว่าในการตายของฉันไม่มีคำพูดของฉันจะเป็นจริงขึ้นมา
อนิจจาเป็นดวงอาทิตย์ตอนเช้าแอบโผล่เหนือเส้นขอบฟ้าที่เป็นเสาหลักของไฟเขียวลุกขึ้นจากคลื่นที่พิสูจน์ความกลัวที่มืดมนที่สุดของฉัน พระเจ้าเก่าเสด็จขึ้นจากความลึกและวางเสียไปยังเรือของฉันและทุกคนบนเรือของเธอ ตอนนี้ไม่มีอาหารหรือน้ำฉันจะไม่สุดท้ายคืน กระดูกของท่านจะถูกถอนสะอาดโดยฝูง pincered ที่หลอกหลอนฉันแม้ตอนนี้
ข้อความนี้อาจหาที่ดินและการเปิดเผยศักดิ์สิทธิ์ที่ Tsoagoth ได้เพิ่มขึ้นอาจชื่อเสียงของฉันถูกเรียกคืน
- กัปตันคารูโซของเลดี้ในการรอคอยสมุดปูมเรือปกหนัง, "อ่าน"
-
...ข้าขอร้องเจ้า เมอร์คูติโอ หากยังนึกถึงมิตรภาพระหว่างเราอยู่ ข้ามีเรือตัวเองก็จริง แต่เอาไว้ใช้ขนปลาเท่านั้น! ไม่ใช่เรือสำหรับออกไปยังที่นั่นเลย เมียข้าต้องการข้า เพื่อนยาก ข้ารู้ว่ามันบ้า แต่อาบิถูกราชันน้ำเค็มจับไปแล้ว ข้ากลัวว่าเธอจะตกเป็นเมียทาสของเจ้านั้นเหมือนที่เรื่องเล่าเก่าๆ เคยบอกไว้
ได้โปรด เมอร์คูติโอ ข้าเคยได้ยินว่าเจ้ารุ่งในเรื่องค้าขายช่วงหลังมานี้ เจ้าแบ่งเรือให้ข้าสักลำได้ไหม? ให้ข้าได้ออกเดินทางไปช่วยเธอ หรืออย่างน้อยก็พาร่างนางกลับมายังพื้นดิน ช่วยให้จิตใจข้าสงบทีเถอะ
ทุกคืนข้าฝันว่ามีพวกสัตว์ร้ายตัวซีดเปื้อนน้ำเหนียวหนืดไล่ตามเรือข้าผ่านท้องทะเลดำ ข้าไม่อยากมอง แต่ก็แอบมองไปบ้าง และพวกมันก็มองตอบ แววตาเบิกกว้างมีแต่ความเศร้าและโหยหา ไม่ใช่ดวงตาของท้องทะเลเลย เมอร์คูติโอ องค์เทพทรงโปรด... ดวงตาพวกนั้นคือดวงตาของอาบิ
- เบนริกแห่งกัลตันชิ้นส่วนจดหมาย, "อ่าน"
-
Marcovius ทั่วไป,
ผู้บัญชาการของนักรบเรือเดินสมุทร
การดำเนินงานมหาสมุทรใบมีด
รายงานเร่งด่วนเมื่อ:
การสังหารหมู่ของ Pondium ช่องแคบ
"เราถูกส่งมาที่นี่จะบดขยี้โจรสลัด Brinerot แต่สิ่งที่ไกลหนักใจมากขึ้นได้ครอบครองความสนใจของเรา. ของคนที่รอดตายไม่กี่เก่าชนิดที่เชื่อโชคลางมากขึ้นเรียกว่าน้ำเกลือกษัตริย์. เห็นได้ชัดว่าบางเทพเท็จของทะเลเรา ได้นานตั้งแต่ scoured จากพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของเรา
ไม่ว่าสิ่งที่ถูกสาปคือมันใหญ่ ผมเคยเห็นมันเอง แต่เป็นน้อยกว่าเงาใหญ่ต่ำกว่าเรา veritably สะโอดสะองลำของกองทัพเรือของเรา
ส่วนใหญ่ของเรือของเราจะหายไปลากใต้คลื่นยักษ์โดยมุ่งร้ายนี้ เราสามารถทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ดูในหนังสยองขวัญเหมือนน้ำเกี่ยวกับเราเบ่งบานสีแดง เราจะใกล้ The Beacon, สิ่งที่เหลือของเราและลมพัดอย่างรุนแรงต่อที่บ้าน
สูงนักรบ Avarius โปรดเข้าใจว่าผมไม่ได้เป็นคนตัดจากผ้าขี้ขลาด แต่สถานการณ์เช่นนี้ ... เกมของแมวและเมาส์นี้ได้หายไปนานเกินไป ไม่มีอะไรที่จะได้รับในการศึกษาเพื่อ Pondium คือ เราจะเปิดใบเรือของเราและจับหลังลมค้าเพื่อ Oriath ฉันเพียงอธิษฐานเราสามารถวิ่งได้เร็วกว่านี้อสูร thalassic
อาจ Innocence คู่มือและปกป้องเรา
Marcovius ทั่วไปรายงานเทมพลาร์, "อ่าน"
-
O' ลอร์ดเกลือและ Scale, คนรับใช้ของคุณเข้าร่วมกับเจ้า
สรรเสริญพระองค์ Tsoagoth!
โดยไม่ต้องมีชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่น้ำเกลือคิงหลับ
เราจะส่งคำอธิษฐานของเราแก่เจ้าเพื่อที่คุณอาจจะนอนหลับนิรันดร์
O' หนึ่งที่ดีที่เรานำเสนอถึงจิตวิญญาณของมนุษย์เป็นทาสสำหรับคุณในเมืองจมน้ำของคุณ
ใช้ชีวิตนี้และเสนอราคาทะเลจะสงบและอุดมสมบูรณ์
วิบัติแก่เซเลอร์ที่ไม่ได้มีการส่งส่วยแก่เจ้า!
ดังกล่าวเป็นคนที่ถูกโยนออกจากอาณาจักรมหาสมุทรของเรา!
เขาจะต้องทำคนจรจัดที่มีค่ากัปตันมิได้คณะกรรมการ
ตัดสินเราไม่ได้โดยเรือคู่ควร
ดูให้เราเป็นคนรับใช้ของคุณ
ญาติของคุณของเกลือและขนาด
O' สรรเสริญเจ้า Tsoagoth, สรรเสริญพระองค์!แท่นบูชาแด่ราชันน้ำเค็ม, "อ่าน"
- ฟรีเชีย
- Ralakesh, Master of a Million Faces
-
ราลาเคช... น้องชายข้ายุ่งอยู่ใช่ไหมล่ะ...
Tangmazu, ทุ่งมอดไหม้
-
สูงลอร์ด Ralakesh ผม แต่ต่ำต้อยนอกกฎหมายฝา แต่คุณเป็นพระเจ้าของพันใบหน้าได้มองมาที่ฉันและฉันถือว่าคุ้มค่าของสาเหตุของคุณ!
ผมเคยนำเสนอด้วยความเต็มใจเนื้อและเลือดของฉัน ตอนนี้คุณจะต้องมีความคิดของฉันที่จะใช้เป็นคุณเห็นพอดี ฉันขอให้คุณแจ้งให้เรารับใช้ตลอดไปเป็นหนึ่งในกรงเล็บอันศักดิ์สิทธิ์ของคุณ ให้ผมนำแสงของที่อยู่ของคุณไปยังทวีปนี้เลือดทั้งหมด ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือการได้เห็นอาณาจักรโบราณของคุณเหล็กไหลและศัตรูของคุณตกใจที่เท้าของคุณบทกวีสรรเสริญแด่ราลาเคช, "อ่าน"
- Gruthkul, Mother of Despair
-
ใช่ ข้ารู้จักกรัธท์คัล มารดาผู้โศกสลด เธอนั้นถูกกล่าวถึงอย่างเด่นชัดในงานเขียนวาล์บางอย่างที่ข้าเคยซ่อมแซม สมัยที่ข้าอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ที่ธีโอโพลิสนั่นแหละ
หลังจากที่ลูกหลานของเธอตายสิ้น ราชินีกรัธท์คัลหนีไปทางเหนือ จนกระทั่งได้พบกับผู้ลี้ภัยจากดินแดนของเธอ ทว่าผู้ภักดีเหล่านี้ต่างมองว่าราชินีของพวกเขาเป็นอาวุธ เป็นเครื่องมือในการล้างแค้น พวกเขาบ่มเพาะความเจ็บปวดของเธอ เปลี่ยนความโศกสลดให้กลายเป็นความเกลียดชัง เปลี่ยนความเกลียดชังให้กลายเป็นความรุนแรง กรัทธ์คัลทำตัวเป็นสัตว์เดรัจฉานอันเกรี้ยวกราดดั่งหมีใหญ่ตัวหนึ่ง แต่ว่าผู้ดูแลของเธอนั้นประเมินค่าความทรมานในใจเธอต่ำเกินไป ดั่งหมีที่ติดกับ กรัธท์คัลงัดตัวออกมาเป็นอิสระจากความภักดีต่อความเป็นมนุษย์ แล้วสังหารผู้ติดตามของเธอให้ตายสิ้นจนถึงผู้หญิงกับเด็กคนสุดท้าย การทำลายล้างเช่นนี้ทำให้กรัทธ์คัลยกตนขึ้นเป็นเทพได้สำเร็จ
ความเจ็บปวดของกรัธท์คัลดำรงอยู่มาหลายยุคสมัย และเธอจะระบายความเจ็บปวดแก่ทุกคนที่เธอได้เผชิญ จนกว่าความโศกสลดของเธอนั้นสิ้นลงนั่นเอง - อาราคาลี ผู้ถักทอหมู่เงา
-
แม้ในขณะที่อาราคาลีผู้กล้าหาญได้วางรากฐานให้กับจักรวรรดิใหม่ภายในซากของจักรวรรดิเก่า ภัยคุกคามใหม่ก็ถือกำเนิดมาจากเงามืดในซอกเทือกเขา สัตว์ร้ายที่ปราศจากความเป็นเทพและอยู่เหนือมนุษย์ ถึงขนาดว่าสูบเอาพลังของอาราคาลีได้เหมือนแมงมุมสูบเอาชีวิตออกจากหนอนที่ติดใย หยูกยาของราชินีเราเคยปกปักรักษาเรา แต่ตอนนี้ความอดอยาก โรคภัยทำลายทุกอย่างที่เหลืออยู่ในดินแดนของเรา
ยิ่งบีสต์บนเทือกเขาเติบโต อาราคาลีของเราก็ยิ่งอ่อนแอจนยิ่งกว่าเด็กที่ช่วยเหลือตนไม่ได้ เธอสูญเสียศรัทธาแม้แต่กับสาวกใกล้ชิด ในวิหารแห่งการเสื่อมสลายข้ารู้สึกอับอายบรรพชนเมื่อพิษแมงมุมเผาผลาญในท้องข้า ยามที่ราชินีต้องการความช่วยเหลืออย่างที่สุด สาวกของเธอหักหลังเธอ มัดเธอด้วยไหมและทิ้งไว้ให้ทรมานใต้พีระมิด เช่นเดียวกับที่อาราคาลีเคยทำกับกรัธท์คัลเมื่อนานมาแล้ว
ตอนนี้เธอกลับขึ้นมาแล้ว แต่ไม่ได้ต้องการล้างแค้น เธอไม่ได้ไร้สติเหมือนกรัธท์คัลหรอก อาราคาลีเทพีแห่งความรักต้องการเพียงโอบกอดโลกอย่างที่เธออยากจะได้รับการโอบกอด
แม่ม่ายแท่นบูชาแด่อาราคาลี, "อ่าน"
-
ข้าเคยถามต่อพระวิญญาณ และท่านได้ตอบข้าด้วยฝันที่ทำให้ข้ากรีดร้องเสียจนตื่น อาราคาลีจะดูดกลืนชีวิตทุกอย่างจากแผ่นดินนี้ เหลือเพียงซากว่างเปล่ากับกระดูกที่ฝุ่นจับเพียงเท่านั้น มันจะไม่มีพระวิญญาณ ไม่มีพวกเรา ไม่มีสิ่งใดให้รักหรือร่วมหัวเราะไปได้อีัก
เหลือเพียงซากกับฝุ่นผง... กับอาราคาลี -
เสียงกระซิบของท่านภายใต้ปฐพีทำให้ผิวข้าสั่นไหว ราวกับลมหายใจคนรักที่ต้องกับอวัยวะเพศ ข้าไม่อาจหลับได้ลง ข้าได้ยินชื่อของท่านในกะโหลกของข้า อาราคาลี ไม่มีชื่อใดที่หอมหวานบนปลายลิ้นข้าเสียยิ่งไปกว่าชื่อของท่านอีกแล้ว
ข้าได้ยินเรื่องราวมามากมายเกี่ยวกับหญิงรูปงามผู้ต้องสาป เป็นภาพผู้หญิงอันเป็นเพชรเด่นที่เดินอยู่ท่ามกลางท้องถนนในกาลสุดท้ายของจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ ข้าได้ยินว่าท่านตามหาเหยื่อ แต่ข้ารู้ความจริง ท่านตามหาผู้ชายที่รักท่านเพื่อคลายมนต์สะกด ท่านหวังว่ารักแท้จะทำให้ท่านสามารถสลัดร่างแปดขา เพื่อให้กลับมาเป็นเทพีแห่งรักได้อีกครา
ข้าขอสาบานตนต่อท่าน ท่านหญิงแห่งวาล์ของข้า ข้าสาบานว่าข้าจะมอบรักให้กับท่าน เพราะข้าคือชายคนนั้นที่ท่านเฝ้ารอ พวกรักศพเปี่ยมมลทินอ้างว่าพวกเขารักท่าน เรียกท่านว่าผู้ถักทอหมู่เงา แต่ท่านทำได้เพียงถักทอหมู่เงาแห่งปรารถนาในใจข้าเช่นนี้
ท่านอาราคาลีที่รัก ข้าพบแท่นบูชาของท่านแล้ว ข้าจะเพรียกหาท่าน ข้าจะทำให้ท่านกลับมามีรูปงามดังเดิม แล้วเราจะครองเวร์แคลส์ทไปด้วยกันอย่างรุ่งเรือง... ไปตลอดกาล - Sarn
- Yugul, Reflection of Terror
-
ในสวนเล็กๆ อันน่ารังเกียจของอีซาโร เจ้าจะได้พบกับสหายเก่าของข้า
ยูกูลผู้เป็นปากที่เปิดอ้า... เป็นเพียงแค่ความเชื่อเรื่องความหวาดกลัวที่สะท้อนออกมาจากหัวของสิ่งมีชีวิตที่น่าสมเพชนั่นเพียงเท่านั้น ผู้ใดที่มองเขาย่อมมองเห็นใบหน้าอันสยดสยองที่สะท้อนความหวาดกลัวของตนออกมา - Solaris, Eternal Sun & Lunaris, Eternal Moon
-
ดีที่ได้พบกับเจ้าที่ซาร์นอีกครั้ง ข้าอยากให้เราได้พบกันในวันที่ท้องฟ้าสดใส ทว่าเมืองนี้ก็ยังถูกบดบังด้วยเมฆหมอกแห่งความขัดแย้งเช่นเคย
ลูนาริส เทพีจันทร์นิรันดร กับพี่สาวของเธอ โซลาริสแห่งตะวัน ต่างได้ฟื้นคืนมาเพื่อครองสิ่งที่เคยเป็นของพวกเธอเอง สองพี่น้องอันมีกำลังเท่าเทียมกัน แม่น้ำแฝดอันยิ่งใหญ่รวมเป็นหนึ่ง กวาดล้างทุกผู้ที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอ
เราเป็นเพียงสัตว์ที่ถูกต้อนให้จนมุม รอวันที่สายน้ำท่วมทะลักให้เราจมทั้งเป็น ทว่ามันยังมีทรัพย์สมบัติโบราณคู่หนึ่งอยู่ ลูกแก้วตะวันกับลูกแก้วจันทรา ลูกแก้วสองลูกนี้เป็นความหวังของเรา... เป็นที่พึ่งสุดท้ายของเรา -
ข้าคอยใช้ดวงตานกฮูกอันเฉียบคมในการเฝ้ามองเทพีตะวันมาแต่ไกล ลูกแก้วตะวันอยู่ภายในวิหารของเธอ มันถูกพิทักษ์โดยสาวกอันร้อนแรงที่สุดของเธอ เขาคือเอ็กไซล์ที่บ้าคลั่งเสียจนเรียกตนว่า 'ดอว์น' (รุ่งอรุณ)
ลูกแก้วนั้นเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ต้องถูกฉกฉวยมาจากบุตรคนใหม่ของเธอ แล้วนำไปหว่านไว้ตรงเท้าของมารดาผู้ดึกดำบรรพ์ของเขา -
ข้าคอยจับตามองเอ็กไซล์-ผู้กลายเป็น-คนสอพลอที่เรียกตัวเองว่า 'ดัสก์' (ใกล้ค่ำ) ดัสก์นำลูกแก้วจันทราไปไว้ในวิหารลูนาริส และไม่ได้นำมันออกมา เท่าที่ข้าเห็นน่ะ
แน่นอนว่าเขากอดรัดลูกแก้วนั้นเอาไว้ราวกับเป็นเต้านมที่ให้นมของมารดาบุญธรรมของเขาเสียเอง หากเจ้าอยากให้เขาหย่านม แล้วนำลูกแก้วนั้นไปวางไว้ที่มารดาที่เจ้าพรากไป เราอาจได้เห็นจันทราร่วงหล่นเสียเอง -
หากมนุษยชาติจะมีแห่งยุคใหม่อันรุ่งโรจน์ ดวงอาทิตย์ย่อมต้องถูกสั่งสอนให้รู้จักระงับตนเสียบ้าง
โซลาริสมุ่งที่จะเผากลืนให้สิ้นทุกชีวิตในพื้นที่อันกว้างใหญ่ระหว่างซ้ายขวาของซาร์น เธอไม่คิดถึงชีวิตกับความจำเป็นใดๆ ของมัน และเธอย่อมทำให้โลกนี้เหือดแห้งไปเสียสิ้นก่อนที่จะยอมจำนนต่อเหตุผล
ตะวันย่อมต้องตกดิน เพื่อให้ตะวันขึ้นฟ้านั้นเป็นเรื่องประเสริฐ มิใช่เรื่องหายนะ -
เราเข้าใกล้ถึงจุดสิ้นสุดในการออกล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไปสู่สะพานที่บีบรัดคออันยิ่งใหญ่ที่เปียกชุ่มของซาร์นนั่นเอง
ลูนาริสนั้นโกรธเกรี้ยวอย่างเลือดเย็นเสียจนลืมไปว่าดวงอาทิตย์ยามรุ่งนั้นให้ชีวิตได้พอกับความเย็นเยียบยามอาทิตย์อัสดง
จักรวรรดิที่ลูนาริสใฝ่ฝันนั้นย่อมเฉิดฉายไปด้วยดวงจันทร์และดวงดาวระยับ และชีวิตต่างๆ จะเหือดแห้งไปในคืนอันเป็นนิรันดร์ - Vastiri
- Garukhan, Queen of the Wind
-
การูคานขอพรจากท้องฟ้าอีกครั้ง แม้นเธอต้องจบชีวิต ก็ขอให้จบชีวิตบนท้องฟ้านั้น
โลกนี้ไม่เคยเป็นบ้านของเธอเลย เธอต้องการสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านี้
เธอต้องการการผจญภัย
แต่แล้วเธอก็จบชีวิตลง ณ ผืนดินนี้... - Shakari, Queen of the Sands
-
ตอนข้าได้รับดอกไม้เลือดครั้งแรก ข้าได้ร่วมพิธีพิสูจน์ความเป็นอิสตรีอันแท้จริง ผู้หญิงชาวมาราเค็ททุกคนต้องร่ายรำกับแมงป่องเพื่อพิสูจน์ตนว่าคู่ควรกับหอกของเด็คคารา
การจับแมงป่องดำมาราเค็ทนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่น้อย หางมันเร็วมาก เหล็กไนก็คม พิษก็ถึงตาย ข้ารอดจากพิธีมาได้อย่างไร้บาดแผล แต่น้องสาวข้า... เราเกิดท้องเดียวกัน ลืมตาดูโลกด้วยกัน เธอชักดิ้นชักงอ น้ำลายฟูมปากแล้วจากโลกนี้ไป
นับแต่วันนั้นมาข้าก็ไม่เคยหลับสนิทเพราะกลัวหางแมงป่อง และบัดนี้ ชาคารี พระแม่แมลงดำทั้งมวลก็ผุดขึ้นมาจากทรายเสียอย่างนั้น!
ตามหานังแมงป่องสารเลวนั่นแล้วฆ่ามันเพื่อข้าเสีย... ฆ่ามันเพื่อลูกหลานทุกคนที่ทนทุกข์ทรมานและล้มตายจากหางแมงป่องพิษของมัน -
เจ้าฆ่าชาคารีได้แล้วเหรอ? สุดท้ายก็ล้างแค้นให้น้องสาวข้าได้เสียที ชาคารีควรจะเป็นครูผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเรา ผู้นำทางเราไปสู่ความเป็นอิสตรีเต็มตัว แต่มันกลับหยิบยื่นแต่ความตายให้เรา
ข้าว่าสมควรแล้วที่ผู้เป็นครูจะได้เรียนรู้บทเรียนแห่งความตายด้วยตนเอง ชีวิตเราทั้งชีวิต เราอยู่เพราะพรจากเหล่าเทพีของเรา แต่ตอนนี้พวกเธอก็เดินดินอยู่ตรงหน้า ทำให้เราได้เห็นว่าพวกมันเป็นเพียงอสุรกายเพียงเท่านั้น
ได้โปรดให้ข้าตอบแทนเจ้าเถิด -
ในทะเลทรายมาราเค็ทนั้น มีโอเอซิสแห่งหนึ่งอยู่ทางตะวันออก แหล่งน้ำมีพายุผิดธรรมชาติคอยบดบังไม่ให้ผู้ใดได้พบเห็น ทรายจะเลาะเนื้อจากกระดูกเจ้าหากเจ้าก้าวเข้าเงามืดของมัน แต่เจ้าก็ยังต้องเข้าไป
เทพีชาคารีซ่อนอยู่ในพายุทรายสีทองนั่น มีแต่ความแค้นก่อกำเริบในยามที่เธอคืนชีพและปลุกกองทัพโบราณของเธอขึ้นมา ซึ่งเป็นกองทัพที่เคยจ้องทำลายสมดุลระหว่างแผ่นดินทั้งหมด
หากเธอปลุกกองทัพขึ้นมาได้ ชาวมาราเค็ททั้งหมดอาจจะตกอยู่ในกำมืออันโหดเหี้ยมของเธอ ตอนนี้ยังไม่อาจทำลายพายุนั้นได้ ต่อให้เป็นข้าก็ตาม แต่มันต้องมีสักทาง
ชาวไฮเกทพวกนี้ชอบทะเลทรายและอากาศอันโหดร้าย บางคนอาจรู้วิธีสลายพายุนี้ไปก็เป็นได้ -
"เรื่องจริงสินะ" ชาคารีคิดในใจในลมหายใจสุดท้ายของเธอ
"ซิน พ่อข้า อยากฆ่าข้า เขาก็เลยส่งสมุนหมาบ้ามาจัดการข้า..." - The Silence of the Gods
-
นอกจากตัวของข้าแล้ว ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงการสั่นไหวของของเทพองค์อื่นได้อีก แม้ข้างนอกนั้นอาจมีเทพองค์อื่นหลงเหลืออยู่บ้าง แต่สำหรับตอนนี้ เวร์แคลส์ทก็ได้โล่งอกไปชั่วครู่
แต่เรายังต้องหันไปหาคิทาวาที่ยังอิ่มเอิบไปกับผู้คนที่น่าสงสารที่ติดอยู่ในโอริอาท เจ้าได้ดื่มด่ำพลังพรรคพวกเขาข้าเสียอิ่มแล้ว พลังเหล่าทวยเทพไหลเวียนอยู่ในสายเลือดเจ้า รอคอยที่จะถูกนำออกมาใช้กับเหยื่อที่เลือก เราทำได้เพียงหวังว่ามันจะแข็งแกร่งพอที่จะเผชิญกับเทพผู้เป็นปีศาจตนนั้น -
ข้าชื่อคิรัค นักสะกดรอยกับเจ้าหน้าที่ในกองหน้าแห่งพลเมืองใหม่ของโอริอาท เราเป็นแนวหน้าที่จะกันไม่ให้อะไรอย่างคิทาวากับอินโนเซนเข้าจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวได้อีก พวกเทมพลาร์ปิดบังธรรมชาติที่แท้จริงของโลกใบนี้จากประชาชนมาโดยตลอด แต่ในเมื่อความแตก เราจะใช้ตาทั้งสองข้างคอยจับตาดูให้ดี แต่สำหรับข้าก็ข้างเดียวน่ะนะ
-
เหมือนว่าพอก็คือพอ กองหน้าทำการอพยพครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติกาล... และโอริอาทก็ถูกทอดทิ้ง หลังจากการครองอำนาจของพวกเทมพลาร์ ตามด้วยการปราบปรามภายใต้อินโนเซน ตามด้วยการสังหารหมู่ด้วยน้ำมือของคิทาวา แล้วก็ลงเอยที่การสร้างหายนะของไซรัส มันเห็นได้ชัดว่าเกาะเล็กๆ ของเราไม่ใช่ที่ที่คนใดควรอยู่ บางคนอาจเรียกได้ว่าที่นี่เป็นที่ต้องสาปเสียด้วยซ้ำ แต่พวกเราก็มีส่วนทำให้เกิดหายนะเหล่านี้เช่นเดียวกัน
มันตลกร้ายไม่เบาเลยที่ชาวโอริอาทอย่างเราต้องไปพึ่งใบบุญชาวคารุยที่เราเคยจับมาเป็นทาส ข้าเคยบอกเอาไว้ว่าถ้าเราทำชั่วกับใคร เขาย่อมทำชั่วกับเราเข้าสักวันหนึ่ง แต่ข้าประเมินเกียรติยศของเจ้าของแผ่นดินใหม่ของเราต่ำเกินไป พวกเขาเปลี่ยนไปหลังจากที่เหล่าเทพเจ้าของพวกเขาตายลง... เราเองก็เปลี่ยนไปหลังจากที่เทพเจ้าของเราจากไป ข้าไม่ใช่ผู้ที่มีศรัทธาแต่แรก แต่ข้าเองก็สัมผัสได้ บัดนี้เราอยู่ตามลำพังแล้ว
เราจะต้องร่วมมือกันเพื่อเผชิญกับสิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้...
Wikis Content is available under CC BY-NC-SA 3.0 unless otherwise noted.