Lore
- The War for the Atlas
-
โลกเหล่านี้เปลี่ยนไปมากตั้งแต่ข้าจำได้ มันมืดมน บิดเบี้ยวจนไม่เหลือเค้าเดิมเลย
ข้าไม่เชื่อว่าดินแดนนี้เป็นเรื่องบังเอิญเช่นกัน ต้องมีคนสร้าง ผู้ออกแบบ คนที่มีสติสัมปชัญญะ ทุกเงาในนี้เคลื่อนไปโดยมีจุดหมายที่เราไม่เห็น
ไม่ว่าอะไรกำลังสร้างโลกพวกนี้ทำให้ข้ากังวล เราควรจะหาต้นกำเนิดของความมืดนี้และจัดการมันซะก่อนที่มันจะโผล่ไปที่โลกเรา - Zana Caeserius and the Map Device
-
มันพร่าเลือนเหลือเกิน….พ่อข้าเป็นหัวหน้า Arkhon ของ High Templar Venarius ผู้นำที่โหดร้ายและอันตราย Venarius อยากเอาโลกนี้เป็นตัวประกันด้วยวัตถุโบราณลี้ลับจากซากของ Wraeclast เจ้านั่นเชื่อว่าของพวกนั้นจะช่วยพาขึ้นสวรรค์หรือเป็นอะไรที่สูงกว่าได้
มันบังคับพ่อข้าให้ทดลองอุปกรณ์แผนที่ให้มัน หวังจะได้อาวุธ คงไม่จำเป็นต้องบอกว่าพ่อข้าเจอบางอย่างที่น่าสนใจ แต่แทนที่จะส่งมอบ พ่อข้าเก็บมันไว้ไม่ให้ใครอื่นเข้าถึงพลัง จนเขาต้องเสียอิสรภาพ และข้าต้อง..เสียวัยเด็กไป -
แม่ข้าตายหลังข้าเกิดไม่นาน พ่อข้าก็ด้วย จากไปหลังจากนั้นไม่กี่ปี ข้ากำพร้า ทรัพย์สินบ้านช่องก็ถูกยึดหมด และข้าถูกส่งไปบ้านรับเลี้ยงหลังโน้นหลังนี้ในฐานะทาสในเรือนเบี้ย
แต่เด็กๆ ช่างอยากรู้อยากเห็นนะ แต่ข้าอยากรู้เห็นมากกว่ามาตรฐานอีก ข้าเติบโตมาด้วยการอ่านทุกอย่างที่ข้าหาได้ และเริ่มตั้งคำถามกับทุกอย่างที่พวกเขาสอนข้า ข้าฉลาดเกินไปที่จะอยู่มั้ง ข้าคิดนะ เพราะสุดท้ายพวกเทมพลาร์ก็เริ่มหันมาสนใจข้า
โชคยังเข้าข้างข้าเพราะโดมินัสเป็นพวกทำอะไรโฉ่งฉ่างไม่เหมือนเทมพลาร์ระดับสูงคนก่อนๆ ข้าก็เลยสามารถหนีออกจากโอริอาทด้วยตนเองก่อนจะถูกเนรเทศไป -
ข้ากลับมาที่โอริอาทพร้อมกับกองเรือผู้รอดชีวิตกลุ่มแรก เต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ในที่สุดก็จะมีโอกาสได้ใช้ความรู้ความสามารถของข้าทำในสิ่งที่ดี และในระหว่างกำลังบูรณะ เราก็ได้ค้นพบอุปกรณ์ทองคำ -- ข้ามารู้ทีหลังว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ของท่านพ่อ
ในตอนแรกข้าหวังว่ามันจะมีประโยชน์กับกลุ่มผู้อยู่รอด แต่เมื่อข้าได้พบเอลเดอร์ ทุกอย่างก็กระจ่างทันทีว่าเบื้องหลังประตูมิตินั่นมีโทษมากกว่าประโยชน์ ข้าได้จัดทีมลับสุดยอดขึ้นมาซึ่งมีเหล่าเอ็กไซล์ที่พิสูจน์ตนในเวร์แคลส์ทแล้วว่ามีความสามารถด้านการต่อสู้ และเริ่มงานเพื่อผนึกเอลเดอร์เอาไว้ ซึ่งในที่สุดเราก็ทำได้เป็นผลสำเร็จ ความรู้สึกโล่งใจในตอนนั้น... มันอธิบายไม่ถูก แต่ทว่า...
สมุดแผนที่เป็นสถานที่อันตราย มันจู่โจมทั้งกายและใจ มันทำให้เวร์แคลส์ทดูเป็นของเด็กเล่นไปเลย ทีมของข้า เพื่อนของข้า พวกเขาได้รับผลจากการเดินทางนี้อย่างใหญ่หลวง และในที่สุดการลุ่มหลงในพลังนั้นก็ได้ทำให้พวกเขาสูญเสียสติ
และอีกไม่นานข้าก็คงจะเป็นไปตามพวกเขา -
แผนที่ฉบับนี้เป็นทั้งผลงานทางวิศวกรรมและมนต์มณี มหัศจรรย์จริงๆ
ถ้าพิกัดบนแผนที่เป๊ะละก็ เจ้านี่จะพาเจ้าไปยังที่ๆ... เอ่อ เอาจริงๆ นะ เจ้าลองเองกับมือน่าจะเห็นภาพง่ายกว่า
ข้างนอกนั่นอันตรายมาก เจ้าก็ตัวอันตราย แต่ผู้สังหารเทพอาจจะยังไม่อันตรายพอ
เอาแผนที่ไปใช้เสีย ข้าจะรอเจ้าที่อีกฟาก -
จิตใจเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง? ยังมีสติอยู่ใช่ไหม? ดีแล้ว ข้ามีของบางอย่างให้เจ้าดู ข้าได้ใช้เวลาบางส่วนออกสำรวจแผนที่ ถึงจะดูมั่วๆ แต่ความมั่วนั่นมีความเชื่อมโยงที่เราควรจะเดินตามอยู่ สิ่งที่เจ้าทำข้างนอกนั้นกระเพื่อมกลับไปยังต้นกำเนิดให้เราหาง่ายขึ้น
ยิ่งเราเข้าใจการเชื่อมต่อเหล่านี้มากขึ้น แผนที่พวกนี้ก็ให้อะไรกับเราได้มากขึ้น และเราจะรู้ได้ว่าอะไรบิดเบือนแผนที่พวกนี้
นี่คือสมุดแผนที่โลกาและเราสามารถใช้ในการทำแผนที่เส้นทางได้ -
แรกเริ่มเดิมทีข้าเริ่มศึกษาสมุดแผนที่เพื่อเป็นหนทางเข้าใกล้พ่ออันเป็นที่รักของข้า ข้าไม่คิดมาก่อนว่าจะเข้าใกล้ท่านได้ถึงเพียงนี้ แต่พอถึงตอนนั้น ท่านก็ไม่ค่อยมีสติแล้ว...
พอลองมองย้อนกลับไปดู ข้าว่าข้ามองสิ่งที่สมุดแผนที่เป็นต่อใครในแง่ดีมากเกินไป... ก็นะ ต่อทุกคนเลย ข้าจินตนาการนึกถึงโลกที่ไร้พรหมแดน ทรัพยากรที่ไร้ขอบเขต ดินแดนสุดลูกหูลูกตาให้ทุกคนได้ใช้ชีวิต
แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าสิ่งนั้นมันแลกมาด้วยราคาที่ยอมจ่ายไม่ได้ การเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นคือการทำให้ตัวเองตกอยู่ในความบ้าคลั่งแสนพรรณนา เป็นคุกสุดร้ายกาจที่หนีออกมาไม่ได้ มันจะคอยเกาต่อมความปรารถนาสุดแรงกล้าของเจ้า เผยให้เห็นความเป็นไปได้บางส่วนของมัน ซึ่งการยั่วยวนนั้นมัน... มันเป็นสิ่งเดียวที่ข้าทำได้เพื่อที่จะหยุดตัวข้าเองไม่ให้ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันกับเพื่อนของข้า
สิ่งที่เราทำอยู่เป็นสิ่งสำคัญแต่ก็เสี่ยงอยู่ไม่น้อย ได้โปรด หากเจ้าเริ่มรู้สึกว่าสุขภาพจิตไม่ดี เจ้าจงบอกข้าทันที - Recruting Exiles
-
ข้ากลับมาที่โอริอาทพร้อมกับกองเรือผู้รอดชีวิตกลุ่มแรก เต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ในที่สุดก็จะมีโอกาสได้ใช้ความรู้ความสามารถของข้าทำในสิ่งที่ดี และในระหว่างกำลังบูรณะ เราก็ได้ค้นพบอุปกรณ์ทองคำ -- ข้ามารู้ทีหลังว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ของท่านพ่อ
ในตอนแรกข้าหวังว่ามันจะมีประโยชน์กับกลุ่มผู้อยู่รอด แต่เมื่อข้าได้พบเอลเดอร์ ทุกอย่างก็กระจ่างทันทีว่าเบื้องหลังประตูมิตินั่นมีโทษมากกว่าประโยชน์ ข้าได้จัดทีมลับสุดยอดขึ้นมาซึ่งมีเหล่าเอ็กไซล์ที่พิสูจน์ตนในเวร์แคลส์ทแล้วว่ามีความสามารถด้านการต่อสู้ และเริ่มงานเพื่อผนึกเอลเดอร์เอาไว้ ซึ่งในที่สุดเราก็ทำได้เป็นผลสำเร็จ ความรู้สึกโล่งใจในตอนนั้น... มันอธิบายไม่ถูก แต่ทว่า...
สมุดแผนที่เป็นสถานที่อันตราย มันจู่โจมทั้งกายและใจ มันทำให้เวร์แคลส์ทดูเป็นของเด็กเล่นไปเลย ทีมของข้า เพื่อนของข้า พวกเขาได้รับผลจากการเดินทางนี้อย่างใหญ่หลวง และในที่สุดการลุ่มหลงในพลังนั้นก็ได้ทำให้พวกเขาสูญเสียสติ
และอีกไม่นานข้าก็คงจะเป็นไปตามพวกเขา -
บาราน: ยึดการสวดมนต์เป็นกฎเหล็ก กิจกรรมอื่นๆ ยืดหยุ่นได้ รวมถึงการกินและนอน แต่เวลาสวดมนต์ไม่เคยเปลี่ยน เข่าแย่
เวริทาเนีย: ชอบอ่านทุกคืน ไม่รู้เอาหนังสือมาจากไหน ไม่สนด้วย ชอบละเมอพูดออกมา แต่มีแค่เสียง ไม่มีคำพูดที่แยกออกมาได้
ซานะ: ปิดบังอะไรที่สำคัญอยู่ ไม่รู้ว่าคืออะไร คงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับกลุ่มที่แล้ว เอาแต่ดูเรามาตลอด
ดร็อกซ์: ปากมาก ซ้อมอาวุธตอนกลางคืน บางครั้งได้ยินเขาเดินลาดตระเวนตามค่ายแต่เช้า เขาคงนอน ไม่รู้ตอนไหน -
คนแก่: ซานะรู้จักเขา ปู่เหรอ? ครูเหรอ? ยังไงก็เหมือนเขาจะจำเธอไม่ได้ พลังน่าทึ่ง ต้องระวังตัวเมื่ออยู่ใกล้เขา
ปีศาจ: แย่ แย่ แย่มาก ไม่พบจุดมุ่งหมาย ไม่พบจุดอ่อน เงียบโดยสิ้นเชิง ต้องระวังตัวให้ดียิ่งเมื่ออยู่ใกล้มัน วิ่งหนีไปคงจะดีกว่า
ไซรัส: เป็นคนเงียบๆ แต่เวลาเขาพูดออกมา เขาพูดอย่างมีอำนาจ ชอบซานะเหรอ? ต้องมีอะไรอยู่แน่ๆ
อัล-เฮซมิน: นักล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ -
ไม่... ไซรัสยังมีชีวิตอยู่เหรอ? พระเจ้าช่วย ข้าคิดมาตลอดว่าเขาตายไปแล้ว! เขารับพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาตอนที่เราปิดผนึกเอลเดอร์ไปเต็มๆ เขารอดมาได้ยังไง?
ไซรัสเป็นหัวหน้าของกลุ่มเอ็กไซล์ที่ข้าชักชวนเข้ามา เขาเป็นคนที่ฉลาด มุ่งมั่น และมีพลังอย่างแรงกล้า ต่อให้เป็นก่อนที่เราจะเดินทางตามสมุดแผนที่ไปด้วยกันก็ตาม เรา... ใกล้ชิดกัน ข้าใจสลายตอนที่เขาหายไปกับเอลเดอร์ ตอนแรกข้านึกว่าเอ็กไซล์คนอื่นๆ ก็ตามหาเขาอยู่ด้วย แต่พวกเขาคงรู้ว่าเขายังไม่ตาย...
ข้ารู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ ว่าไซรัสอาจเป็นเหตุที่ทำให้คนอื่นๆ บ้าคลั่ง หรือไม่เขาก็อาจจะบ้าเท่ากับพวกเขาแล้ว เราต้องตามหาเขา หยุดเขาให้ได้ หากคนอื่นๆ กำลังหาทางออก ข้ามั่นว่าเขาก็หาทางออกอยู่เช่นกัน -
ข้าจะพูดตรงๆ แล้วกันนะ ผู้สังหารเทพ ข้ามีปัญหา และเจ้าอาจเป็นคนเดียวที่ช่วยข้าได้
น้องชายข้า บาราน ไปร่วมกับคนหัวรุนแรงคนหนึ่งชื่อซานะ คาเซอริอุสเมื่อนานมาแล้ว เธอมีชื่อพอสมควรในบางวงการ หลายคนที่เคยร่วมงานกับเธอก็ต่างกลายเป็นคนขาดๆ เกินๆ ที่ไปโวยวายเพ้อเจ้ออยู่ตามข้างถนนหรือเข้าหาพลเมืองแปลกหน้า... เจ้าคงเข้าใจที่ข้ากังวล ข้าเชื่อว่าเธอเคยทำงานจากห้องทดลองเทมพลาร์ที่อยู่เลยจัตุรัสนี้ไป เดินทางไปที่นั่นกับข้าเลยแล้วกัน - Pursuing the Shaper
-
สิ่งที่เจ้าเจอในเผนที่ มันกำลัง...สร้างสารพัดสิ่ง อาจจะเป็นผู้สร้างที่เรากำลังหาตัว
แต่มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับมันนะเจ้าผู้พลัดถิ่น บางอย่างที่ข้าบอกไม่ได้ บางที...เจ้า "Shaper" นี่อาจจะรู้
เจ้าออกสำรวจต่อไปเถอะ หาเจ้าคนลึกลับนี่อีกครั้งและถามมัน เราจะได้รู้ว่าโลกพวกนี้มีไว้ทำอะไรกันแน่ -
คนแก่: ซานะรู้จักเขา ปู่เหรอ? ครูเหรอ? ยังไงก็เหมือนเขาจะจำเธอไม่ได้ พลังน่าทึ่ง ต้องระวังตัวเมื่ออยู่ใกล้เขา
ปีศาจ: แย่ แย่ แย่มาก ไม่พบจุดมุ่งหมาย ไม่พบจุดอ่อน เงียบโดยสิ้นเชิง ต้องระวังตัวให้ดียิ่งเมื่ออยู่ใกล้มัน วิ่งหนีไปคงจะดีกว่า
ไซรัส: เป็นคนเงียบๆ แต่เวลาเขาพูดออกมา เขาพูดอย่างมีอำนาจ ชอบซานะเหรอ? ต้องมีอะไรอยู่แน่ๆ
อัล-เฮซมิน: นักล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ -
Zana ที่รักของข้า
เจ้าอยู่ที่ไหนแล้วตอนนี้? ข้าหวังในฐานะพ่อ ก็แบบที่พ่อคนหวังบ่อยๆ ว่าเจ้าจะมีความสุขและปลอดภัยที่สุด ข้าหวังว่าเจ้าจะเติบโตมาแข็งแกร่งและเมตตา เจ้าจะรู้จักรัก และได้รับความรัก ข้าเสียดายอย่างยิ่งที่จะไม่ได้เห็นเจ้าอีก แต่ข้าต้องทำเพื่อปกป้องเจ้าจากปีศาจแห่งความมืดนอกโลกนี้
ข้าล้มเหลว ไม่อาจพิชิต Elder ได้ ว่าตามตรงข้าไม่มีโอกาสด้วยซ้ำ เจ้านี่แข็งแกร่งเกินไป รู้จักการเสกของมากเกินไป หาก Venarius ไม่ได้ทำอาวุธข้าพังเสียก่อนในวันที่มาจับข้านั้น ข้าอาจจะแยกวิญญาณออกจากร่างและขังไว้ในโลกอื่นได้ แต่ข้าไม่มีอาวุธนั่นและ Elder ดูดกินจิตใจข้าไปบ่อยครั้งจนข้าไม่คิดว่าจะจำวิธีการสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้อีก แม้จะพยายามแค่ไหน
สงครามระหว่างข้ากับเจ้านั่นยังไม่จบง่ายๆ ข้าเสียเปรียบมาก แต่ข้าก็สู้เหมือนสุนัขจนตรอกจนกว่าจะตายกันไปข้าง ข้าพยายามหลับไป หวังให้ตื่นกลับมาอยู่ใน Oriath หลายครั้ง หวังว่าข้าจะได้กลับมากอดเจ้าอีกครั้ง แต่แทนที่ข้าจะกลับมาห้องทำงานได้ ข้ากลับไม่ได้ฝันถึงอะไรเลย
ข้ารู้ว่าจดหมายนี้อาจไม่มีวันถึงมือเจ้า แต่ข้าจะเขียน หากไม่ใช่เพื่อเจ้าก็เพื่อสติอันเปราะบางของข้าเอง ข้ารักเจ้า ลูกสาวสุดที่รักเหลือเกิน และข้าอวยพรให้เจ้าปลอดภัยจากทุกอย่างนี่ จาก....ความมืดอวกาศนี้ เจ้าทำให้ข้าภูมิใจ และข้ามองทุกวันคืนที่ได้เรียกเจ้าว่าลูกเป็นของขวัญ....
ข้าต้องไปต่อ ข้าต้องสู้ต่อไป หวังว่าสักวันหากเหล่าเทพช่วย เราจะได้พบกันอีก ข้ารักเจ้ามากนะ...
พ่อเจ้า Valdo Caesariusหนังสือแห่งความทรงจำ, "หน้าที่ 16"
-
ข้าก็ไม่ได้เล่าทุกอย่างให้เจ้าฟัง...ข้าสงสัยมานานแล้วว่าพ่อข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดนี่ ตอนนี้ชิ้นส่วนความจำเป็นหลักฐานว่าพ่อข้าเกี่ยว แต่ไม่ใช่แบบที่ข้าคิดเลย…..ข้าขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงกับเจ้า ข้ากลัวว่าหากเจ้ารู้ความจริงจะไม่ยอมตามข้ามาในฝันร้ายนี่...
มาเริ่มกันใหม่เถอะ ข้าอยากให้เจ้าช่วย ความทรงจำข้าเลือนราง แต่จะบอกเจ้าเท่าที่จำได้ ตอนข้าเป็นเด็ก พ่อข้ากับข้า เรา....แยกกัน พวกนั้นบอกข้าว่าพ่อข้าหายไปในโลกคู่ขนานนั่นเมื่อสมุดแผนที่ปิด และคนที่กลัวมันก็แยกชิ้นส่วนเครื่องนั่นไป ข้าใช้เวลาทั้งชีวิตตามหาชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อประกอบ ซ่อมแซมมันกลับมาให้ใช้ได้ ไม่กี่ปีก่อนข้าทำได้สำเร็จ แต่ตอนนี้เราก็พบเขาแล้ว มีบางอย่างไม่ถูกต้อง พ่อข้าเคยใจดีและอ่อนโยน คนดีที่รักครอบครัว ไม่ใช่แบบนั้น แบบที่เจ้าเพิ่งเห็นไปน่ะ!
ได้โปรดเอานี่ไป ข้าเจอมันตอนออกสำรวจ หวังว่าจะช่วยให้เราเข้าใจกันได้....และหากเจ้ายังคงช่วยข้า ข้าสัญญาว่าจะทำให้เจ้าได้ของตอบแทนคุ้มค่า - Investigating the Elder
-
ดูเหมื่อนว่าพ่อข้าจะพบ "Elder" ตนนี้สักพักก่อนที่เขาจะถูกจับอยู่ในรังของมัน บันทึกฉบับหลังๆ ของเขาพูดถึงเจ้าสิ่งนี้และสิ่งที่เขาเรียนรู้จากมัน ไม่มีอะไรเท่าไหร่นอกจากตำนานมือสองจากบันทึกวิจัยของพวก Watcher of Decay
อย่างไรก็ตามแนวคิดนึงมันขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า ว่า Elder ไม่ใช่เจ้านายตัวเอง มันรับใช้เจ้านาย หรือ....วัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่า ข้าไม่แน่ใจนะ มันช่างสับสน ทั้งพ่อข้าและพวก Watcher พูดถึง Elder ว่ามาจาก "ความว่างเปล่า" และก็เป็นทั้ง "ผู้ถือความว่างเปล่า" แล้วยังมีการพูดถึงความต้องการที่จะทำให้ทุกอย่างแปดเปื้อนผุพัง...บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับเชื้อที่เราเห็นมันผุดขึ้นมาทั้งแผนที่นี่ก็ได้ -
เจ้า…..สิ่งนี้ ดูเหมือนว่ามันจะสูบกินความทรงจำของพ่อข้า หากมันอิ่ม พ่อข้าคงเหลือแค่ซากไร้ชีวิต...เป็นผีร้ายแค่นั้น นอกจาก….เราจะหาเศษชิ้นส่วนความทรงจำเพิ่ม บางทีเราอาจจะคืนความทรงจำให้เขาและปลดปล่อยเขาออกจากฝันร้ายนี่
เจ้าอีกตัวอาจจะทำให้เรื่องมันยากขึ้น มันแปลกราวกับมาจากต่างโลกก็จริงแต่กับข้ามันก็คุ้นๆ อย่างน่าประหลาด เหมือนฝันร้ายที่ลืมไปนานแสนนาน อย่างเดียวที่ข้าจำได้คือความรู้สึกกลัวถึงขั้วหัวใจ....
เราต้องหยุดมันไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไร มันทำให้พื้นที่รอบๆ ผุพังไป และหากเจ้าเชื้อราร้ายนั่นเติบโตออกจากเงามืดของมัน อาจจะลามไปถึง Oriath หรือ Wraeclast เลยก็ได้ เราจะให้มันเกิดไม่ได้ -
ข้าศึกษา Elder และการต่อสู้ของมันกับ Watcher of Decay เพิ่มแล้ว ข้ารู้สึกกลัวสิ่งที่พวก Watcher เจอ จากน้ำมือของเจ้าสิ่งนั้นน่ะ
คนพวกนี้ ล้วนแล้วแต่เป็น...พ่อแม่ เหมือนกับว่า Elder ชอบล่าเหยื่อวัยเด็กและ...อ่อนนิ่ม ชายหญิงเหล่านี้ต่อสู้สุดชีวิตเพื่อล้างแค้นให้ลูกๆ และสำเร็จด้วยถึงจะไม่ได้นาน Elder เป็นอิสระเกือบตลอด 20 ปี รสนิยมของมันบอกได้เลยว่าทำไมเด็กๆ ถึงหายไปอย่างต่อเนื่องทั้งใน Wraeclast และ Oriath
ถ้าเด็กพวกนั้นยังอยู่ที่นี่ละ? กลายเป็นสัตว์ร้ายบิดเบี้ยว ทรมาน พยายามยึดเหนี่ยวชิ้นส่วนความสุขเก่าๆ ที่ยังเหลือ เราต้องปลดปล่อยพวกนั้นนะ -
คนแก่: ซานะรู้จักเขา ปู่เหรอ? ครูเหรอ? ยังไงก็เหมือนเขาจะจำเธอไม่ได้ พลังน่าทึ่ง ต้องระวังตัวเมื่ออยู่ใกล้เขา
ปีศาจ: แย่ แย่ แย่มาก ไม่พบจุดมุ่งหมาย ไม่พบจุดอ่อน เงียบโดยสิ้นเชิง ต้องระวังตัวให้ดียิ่งเมื่ออยู่ใกล้มัน วิ่งหนีไปคงจะดีกว่า
ไซรัส: เป็นคนเงียบๆ แต่เวลาเขาพูดออกมา เขาพูดอย่างมีอำนาจ ชอบซานะเหรอ? ต้องมีอะไรอยู่แน่ๆ
อัล-เฮซมิน: นักล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ -
บารานพูดถึงพระเจ้าอีกแล้ว ฉันเลยบอกเขาว่าฉันจะต้องไป "เขียนในบันทึก" การฝึกเทมพลาร์มันมีอะไรที่ทำให้เล่าเรื่องได้น่าเบื่อได้ขนาดนี้? เขาก็ใจดีพอมั้ง เราน่าจะเอาเรื่องราวของเขาไปใช้เป็นอาวุธได้นะ อาจทำให้ปีศาจนั่นหลับใหลไปตลอดกาลแน่ๆ
เมื่อวานฉันล่าหมูป่าหนึ่งตัวมาให้กลุ่ม วันนี้ดร็อกซ์เอากลับมาได้สองตัว พรุ่งนี้ฉันจะเอากลับมาสามตัว ไอ้โง่ปากมากนั่นจะได้เห็นว่าฉันเป็นนักล่าอันดับหนึ่ง
ฉันรู้ว่าซานะสังเกตเห็นว่ามีอะไรบางอย่างระหว่างดร็อกซ์กับตัวฉันเอง ฉันว่าเธอคงไม่รู้ว่าฉันสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างระหว่างเธอกับไซรัส ฉันเคยเห็นเธอเล่นหูเล่นตากับเขา ฉันเคยเห็นเขาเล่นหูเล่นตากับเธอ ฉันไม่คิดว่าต่างฝ่ายต่างรู้ว่าอีกฝ่ายสนใจอยู่
ฉันนึกว่าเวริทาเนียหว่านเสน่ห์กับฉัน เพราะเธอพูดแบบยิ้มๆ เป็นครั้งแรก แต่ปากฉันเปื้อนเลือดหมูป่า มันออกมาเหมือนกับหนวดสีแดง พอฉันเช็ดออก เธอก็กลับไปอ่านหนังสือต่อไป
หุบปากเถอะบาราน หุบปาก หุบปาก หุบปากสิ
ฉันยอมแล้ว เขาชนะ ฉันจะไปนอน - Attempting to Save The Shaper
-
เจ้าผู้พลัดถิ่น ได้เวลาเราออกโรงแล้ว เพื่อช่วยพ่อข้า ความทรงจำเหล่านี้ถูกพรากจากพ่อข้าไปด้วยความรุนแรงและข้ากลัวว่าต้องใช้ความแรงที่เหนือกว่าเพื่อใส่มันกลับเข้าไป
ข้าสำรวจโลกพวกนี้และข้ารู้แน่ว่าพ่อข้าอยู่ไหน ซ่อนอยู่ลึกใจกลางแผนที่ Atlas แต่อย่างที่ข้ากลัวคือเขาไม่ได้อยู่ลำพัง มียักษ์สี่ตนคอยคุ้มครองและข้าก็สู้พวกมันไม่ไหว หากเจ้าจะฝ่าเข้าไปจัดการพวกมันก่อน ทางไปหาพ่อข้าก็จะโล่ง และ "ปฏิบัติการ" เล็กๆ ของเราก็จะได้เริ่ม -
ข้าคิดว่าเข้าใจมันแล้วตอนนี้ สมุดแผนที่แอตลาสนี่ แผนที่พวกนี้...มันไม่ใช่โลกจริงๆ แต่เหมือนฉากเวทีละครใน Theopolis Amphitheatre โลกนี้เป็นแค่หน้ากากปกปิดความจริงหลังม่านเอาไว้เท่านั้นเอง
ที่นี่เป็นศูนย์กลางของโลกของ Elder สถานที่ที่มันสร้างลานล่า เราใกล้กับความว่างเปล่าที่มันกำเนิดขึ้นมาแล้ว แต่พ่อข้ากลับเลือกที่นี่เป็นบ้าน ข้าอยากรู้จริง อาจจะอารมณ์ซ่อนตัวในที่โล่งหรือเปล่านะ? ถึงจะแบบนั้น กัปตันเรือแบบไหนกันที่ชอบลงไปนอนอยู่ใต้ท้องเรือ? อาจจะเพราะ Elder ไม่ค่อยมาที่นี่ มันยุ่งเกินไปละมั้ง ข้าคิดนะ ออกล่าหากินอยู่ที่อื่นในแผนที่พวกนี้...
เจ้าคนพลัดถิ่น ข้าจะไปเตรียมความจำของพ่อข้า เจ้าทำเลย สำรวจที่นี่ หาพ่อข้า แต่ระวังตัวไว้อาจจะเจอสิ่งเลวร้ายที่ซ่อนอยู่ในนี้ก็ได้ -
ทางสะดวกแล้ว ถึงเส้นทางเราจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนะ เอ็กไซล์ พ่อข้าใจดีแต่หัวแข็ง ถ้าความหัวแข็งนั่นยังเหลืออยู่ละก็การคืนความทรงจำให้คงไม่ง่าย
เราต้องเข้าไปยังดินแดนแห่งเงา ใจกลางสมุดแผนที่และสยบความคลั่งของพ่อข้าให้ได้ ถึงตอนนั้นจิตใจของเขาน่าจะสงบพอรับความทรงจำจากเศษพวกนี้ที่เราใส่กลับเข้าไป -
ความทรงจำของพ่อข้า…..ที่เกี่ยวกับข้า....มันหายไปแล้ว ถูกผีร้ายนั่นเขมือบไปหมด! ให้ตายเถอะ! พ่อข้า….คงไม่รู้จักข้าอีกแล้ว
แต่อย่างน้อย….อย่างน้อยข้าก็ได้พูดกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย เขาจำข้าได้ เห็นไหมเจ้าผู้พลัดถิ่น? เขารู้จักหน้าข้า!....แล้วตอนนี้เขาก็กลับไปทรมานอีกครั้ง
ถ้าเราคืนความจำเขาไม่ได้ เราก็ต้องปลดปล่อยเขาจากคุกนี่ ข้าไม่อยากเชื่อว่าตัวเองเอ่ยปากขออะไรจากเจ้า แต่เราต้องจัดการเจ้า Elder นี่ ไม่แน่หากเรากำจัดมันได้ พ่อข้าจะได้สละวิญญาณและนอนหลับอย่างสงบ - The Final Battle
-
เจ้าไปพบอะไรมาเจ้าผู้พลัดถิ่น? อ้อ! กุญแจเข้าห้องทำงานพ่อข้าที่ Oriath! ถ้าเขาพูดจริง จะต้องมีอาวุธที่สามารถหยุดเจ้า "Elder" นี่ได้ในนั้น และเราต้องหยุดมัน
ข้ารู้ว่าข้าเริ่มขอเจ้าเยอะไป แต่เจ้าสัตว์ร้ายนี่ - เราเห็นแล้วว่ามันมีพลังเปลี่ยนแผนที่ยังไง ความเน่าผุพังมันแพร่กระจายไปได้มากขนาดไหน....แล้วมันเกิดจากเหยื่อของพวกมันได้ไง หากความเน่าเปื่อยนั่นกระจายไปถึงแผนที่อย่างที่ข้ามั่นใจ โลกนี้ต้องกลายเป็นเหยื่อสปอร์แน่!
เราไปกันเถอะ กลับไปยัง Theopolis แล้วสืบจากเบาะแสพวกนี้ ได้โปรด หากเจ้ายังมีความดีอยู่ เจ้าผู้พลัดถิ่น ไปพบข้าที่นั่นเมื่อพร้อม และเราจะวางแผนโจมตีกัน -
เจ้ามาเร็วจริงเจ้าผู้พลัดถิ่น ข้าดีใจที่เจ้าเลือกจะลุยต่อกับข้า ดูนะ ความกังวลของข้า...มันมีน้ำหนัก ความเน่าเปื่อยที่เราเห็นทั่วแผนที่ มันมาถึงนี่แล้ว บางทีที่เราไปลุยกันในสมุดแผนที่แอตลาสนั่นน่ะ ทำให้เครื่องป้องกันระหว่างโลกนี้กับแผนที่พวกนั้นมันอ่อนลง ไม่มีพลังเต็มพิกัดจากพ่อข้าแล้ว เจ้านายแท้จริงของ Elder ความเน่าเปื่อย Decay นั่นน่ะ กำลังซึมทะลุออกมาแล้ว
ข้าสัญญาจะให้รางวัลเจ้าตอนตามหาพ่อข้า ก็อันนี้แหละ - ของจากห้องทำงานลับของพ่อข้า ได้โปรด เอาไปและลุยต่อกับข้า - อยู่ด้วยกันเราทำอะไรได้มากกว่า -
นี่แหละอุปกรณ์ที่จะช่วยเราได้ "Cosmic Arcana" ถ้าใช้สิ่งนี้เราจะบีบให้ Elder หลุดจากแผนที่และกลับไปยังโลกไร้ตัวตนได้ ปัญหาเหรอ? เราต้องไปที่ใจกลางสมุดแผนที่ ศูนย์กลางโลกที่หน้ากากมันบางสุด
บทบาทเจ้าอยู่ตรงนี้ เจ้าผู้พลัดถิ่น เจ้าต้องล่อ Elder ไปที่นั่น ข้าจะใช้อาวุธถีบมันออกจากโลกเราไป ใช้สมองเยอะหน่อยนะ เพราะพ่อข้ายังออกอาละวาดอยู่ ตอนสู้กันคราวก่อนเขาอ่อนพลังลงก็จริง แต่ด้วยระดับความบ้าขนาดนั้น เขาไม่หยุดสู้กับ Elder แน่ เราต้องระวังให้มาก... -
ข้าจำได้เกือบทุกอย่างเกี่ยวกับการศึกษาอุปกรณ์แผนที่ของพ่อข้าแล้ว ข้าจำได้ว่าเขาขังตัวเอง ทำงานสร้างอาวุธนี่ ข้าอ่านบันทึกช่วยจำของอาวุธนั้นตอนข้ารอเจ้ามา วิทยาการนั่นมัน...ไม่อาจเข้าใจได้เลย ที่ข้าบรรยายได้ใกล้เคียงสุดก็คือ Arcana จะปลดปล่อยพลังโหดออกมาก็ต่อเมื่อชาร์จเต็มที่ และหากเล็งไปที่ Elder มันจะต้องกลับไปใช้ร่างก่อนที่มันจะเข้ามิติเรามา
เรารู้ร่างมันแล้วอย่างที่พ่อข้าพูดคือเป็นกายเนื้อ สั้นๆ อะไรที่ไม่ใช่กายภาพ ก็อยู่ในมิติกายภาพไม่ได้ มันจะต้องกลับไปยังที่ๆ ของมัน และถ้าจะดีคือต้องกลับมาไม่ได้ อย่างที่ข้าบอกคือมันเลือนราง แต่ข้าเชื่อพ่อข้า และเป็นความหวังเดียวที่เรามี -
ข้าอยากมีจุดมุ่งหมายมาโดยตลอด ข้าอยากตามหาความหมายให้กับชีวิต หากข้ารู้ถึงผลที่จะตามมา ข้าคงจะลองหาทางรื่นเริงกับชีวิตอันไร้จุดมุ่งหมายของข้าอีกต่อไปสักนิด
ข้าเกลียดที่นี่ ข้าเกลียดสิ่งที่มันบังคับให้เราทำ ข้าไม่อยากนำพวกเขาเลย เพราะข้าไม่เชื่อว่าเราจะรอดจากงานนี้ไปได้ และข้าจะเป็นคนผิด
หากไม่มีซานะ...
หากไม่มีซานะ ชีวิตข้าคงระทมต่อไป
ข้าจะทำเพื่อเธอ -
ชั่วชีวิตนี้ ข้าได้เดินทางมามากพอสมควรเช่นเดียวกับผู้ขนของเถื่อนทั่วไป ข้าได้เห็นอะไรแปลกๆ มาบ้าง ได้พบกับบุคคลที่เป็นมิตรมาก ใจจืดใจดำ หรือกระทั่งน่าขนลุกขนพอง โดยส่วนใหญ่ก็พบจากผับนั่นแหละ ข้านึกว่าข้าเป็นคนที่กล้าแกร่งดั่งคนทั่วไป
สิ่งที่ข้าได้เห็นวันนี้ทำให้ใจข้าสั่นไหว มันปรากฏจากความว่างเปล่าราวกับหมอกที่ลอยขึ้นมาจากขอบน้ำ ตามมาด้วย... สิ่งไร้ร่างหลายสิบตน ใจข้าหยุดนิ่ง ขนลุกขนพองไปทั่ว ไปทั่วจริงๆ แขนของมันพัวพันกันอยู่มากมาย ปากของมันเป็นหุบเหวดำมืดอันไม่สิ้น มันเป็นอสุรกายที่เรากำลังตามล่า
ข้าไม่เคยกลัวเช่นนี้มาก่อน เพียงแค่อยู่ตรงหน้ามัน ก็เหมือนกับชีวิตข้าถูกมันดูดกลืน ละลายดั่งน้ำตาลในน้ำ
ข้าเข้าใจแล้วว่าเรื่องนี้มีเดิมพันเช่นไร ข้าต้องการจุดมุ่งหมายในชีวิต... ข้าก็มีแล้ว -
เราได้ต้อนศัตรูของเรามาสู่ใจกลางสมุดแผนที่แล้ว ข้าเป็นห่วงซานะ พ่อของเธอติดอยู่ใจกลางหายนะนี้ และข้าไม่คิดว่าจะมีทางใดที่เขาจะรอดชีวิตจากเรื่องนี้ไปได้แม้แต่น้อย
ดร็อกซ์เงียบอย่างผิดวิสัยมาทั้งวัน อัล-เฮซมินตรวจเสบียงของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า บารานกับเวริทาเนียไม่ได้ต่อปากต่อคำกันด้วยซ้ำ เราทุกคนต่างรู้ว่านี่อาจเป็นช่วงสุดท้ายที่เรามีชีวิต
ข้าไม่เสียเวลาเนิ่นนานในการตามหาความมั่งมีกับความกระฉ่อน... พระเจ้า หากข้าสามารถย้อนเวลากลับไปได้ การไม่มีความหมาย การไม่มีจุดมุ่งหมายใดนอกจากความเห็นแก่ตัว... เสียเวลามากมายไปอย่างไร้ประโยชน์
หากข้ารอดไปได้หลังวันพรุ่งนี้ ข้าจะบอกความรู้สึกของข้าให้ซานะได้รู้ -
มันกำลังเกิดขึ้นใช่ไหม? เจ้า Elder นั่นกำลังมา และเรามาสุดทางแล้วเจ้าผู้พลัดถิ่น สุดปลายทางนี้จะเป็นความสำเร็จ หรือจะมีแต่ความตายและเน่าเปื่อยรออยู่ที่เส้นขอบฟ้าละ? ข้าหวังว่าเจ้าพร้อมแล้วนะเพื่อนข้า
เราต้องตัดกำลังเจ้านี่ก่อนที่ Cosmic Arcana จะทำงานได้ ข้าขอให้เจ้าโชคดี และหากเราไม่รอดกลับมาพบกันอีก...ก็เป็นเกียรติที่ได้สู้เคียงข้างเจ้า -
ข้า บาราน บุตรกัลฮัด ผู้มีอายุเต็มวัย มีจิตใจกับความทรงจำอันสมบูรณ์ ขอทำเอกสารนี้และประกาศว่าสิ่งนี้เป็นพินัยกรรมของข้า เราจักได้ต่อสู้กับสิ่งเลวทรามแห่งจักรวาลในสถานที่อยู่นอกเหนือจากที่ถูกที่ควรอย่างแท้จริงในไม่ช้า แม้นพระเจ้าอวยพร เราต่างก็มีโอกาสเพียงน้อยนิด
แด่เหล่าเพื่อนและมิตรสหายของข้า เวริทาเนีย ไซรัส ดร็อกซ์ อัล-เฮซมิน ข้าขอยกมรดกให้พวกเจ้าเป็นไม้พลองกับชุดเกราะเหล็กของข้า ขอให้พวกเจ้าใช้มันในการผนึกความชั่วอันยิ่งใหญ่ที่หลอกหลอนดินแดนเหล่านี้
แด่พี่น้องชายหญิงผู้ร่วมศาสนาเทมพลาร์ที่ถูกเนรเทศทั้งหลาย เฮรูลส์ โกมิน แคสเซีย กับแลนเดรน ข้าขอยกมรดกให้พวกเจ้าเป็นบ้านของข้าในโอริอาท เพื่อที่พวกเจ้าจะไม่ไร้บ้านอีกต่อไป
ลงชื่อ
บาราน บุตรกัลฮัด -
แด่ผู้ใดก็ตามที่พบจดหมายฉบับนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ในดินแดนอันประหลาดและผิดเพี้ยนนั้นยากเกินการเข้าใจใดๆ สิ่งชั่วร้ายที่เก่าแก่กว่ากาลเวลาผู้ที่ร่อนเร่ไปตามดินแดนนี้ได้กัดกินความทรงจำของวาลโด คาเซอริอุส บุตรแห่งโอริอาท
ทว่าปีศาจที่ได้กัดกินเขานั้นทรงพลังเหนือคณานับ และมีปรารถนาอย่างไม่หยุดยั้งในการแพร่กระจายสิ่งที่เราค้นพบว่าถูกเรียกว่า 'การเสื่อมสลาย' เราไม่รู้ว่าเราได้ตามติดมารร้ายนี้มานานเสียเท่าไร นานพอที่มิตรของข้าเริ่มมีอาการแห่งความบ้าคลั่ง เราคงจะแพ้พ่ายต่อความชั่วร้ายนี้หากไม่มีไซรัสผู้เป็นผู้นำ... และผู้เสียสละ
เราไม่พบทางใดที่จะสยบมารร้ายนี้ แม้เราจะพยายามมานับไม่ถ้วนก็ตาม ทว่าเป็นบุตรสาวของวาลโดที่พบวิธีปิดผนึกมัน ทว่ามันต้องแลกมากับการที่ซานะต้องสูญเสียบิดาของเธอไป ขอให้วิญญาณเขาทรงไปสู่สุคติ การเดิมพันของเราคงล้มเหลวหากไม่มีไซรัส มารร้ายไม่ยอมจำนน พยายามตะกายหาทางออกมาจากเครื่องของซานะ ไซรัส... เขากระโจนเข้าไป เราเห็นมารร้ายสัมผัสร่างของเขา แล้วก็ปล่อยเงื้อมมือของมันไปในท้ายที่สุด ท้งไซรัสกับมารร้ายนั่นเข้าไปสู่กับดักและออกไปจากความเป็นจริงของเรา ทั้งคู่หายไป
แล้วไซรัสก็กลับมาอีกครั้ง ไม่มีใครพบว่าเขากลับมา ดวงตาของเขาไม่ขยับ เขาไม่กระพริบตา เขาพร่ำเพ้อ... อย่างบ้าคลั่งและไม่หยุดยั้ง ใบหน้าของเขาถูกบิดเบือนเช่นเดียวกับผู้อื่นที่ถูกวิญญาณดำสิงสู่ เขาจู่โจมเราครั้งแล้วครั้งเล่า เราไม่อาจเหนี่ยวรั้งเขาได้ เราต้องหลบหนีไปจากที่นั่น นั่นเป็นตอนที่เราพบว่าทางกลับบ้านของเราถูกปิดลง บุตรสาวของวาลโดได้ทำลายทางกลับบ้านของเรา
ข้าไม่ทราบว่าเราติดอยู่ในนี้มานานเท่าไร อย่างน้อยเป็นสัปดาห์ อาจเป็นปีก็เป็นได้ เวลาในสมุดแผนที่นั้นเป็นเพียงเรื่องลวงตา
ได้โปรดเถิดผู้อ่าน หากเจ้ายังมีสำนึกหลงเหลืออยู่ อย่าได้ดำรงอยู่ในที่แห่งนี้ กลับไปสู่โอริอาทหรือที่ใดที่เจ้าจากมา บอกเล่าให้พวกเขารู้ถึงความเป็นวีรบุรุษและการเสียสละของไซรัส แล้วปล่อยให้เขากับพวกเราตายไปพร้อมกับความลับที่เราได้พบ
บาราน ผู้สิ้นศรัทธา -
พวกเขาทิ้งข้าไป ยามข้าต้องการความช่วยเหลือ พวกเขากลับทิ้งข้าไป
ข้าจะได้ว่าเห็นแสงที่ถูกดูดกลืนไปด้วยลูกแก้วความมืด ค้างอยู่บนนั้น ข้าจำได้ว่ามือของมันเอื้อมหาอะไรสักอย่างเพื่อคว้าเอาไว้ จนตรอก ข้าจำได้ว่าข้าก้าวไปข้างหน้า ข้าไม่ได้นึกถึงตัวข้าหรือโอริอาท ข้านึกถึงเพื่อน นึกถึงพี่น้องข้าที่ฝากชีวิตไว้กับข้า ข้าจำได้ว่ากำปั้นของมันบีบแน่น แล้วข้าก็หมดสติ
ข้าจำได้ว่า... กระจก ถูกผนึกในกระจก ข้าขยับไม่ได้ พูดไม่ได้ แต่ข้ามองเห็นได้ทุกอย่าง ข้าเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง เห็นเธอจากไป มันผ่านไปไวเหลือเกิน หนึ่งพันคืนวันผ่านไปในชั่วพริบตา แล้ว...
ไม่มีอะไร ข้าไม่รู้สึกอะไร ไม่มีความเศร้าโศกหรือความโกรธเกรี้ยว ไม่มีความสุข ไม่มีความเจ็บปวด ข้าเป็นอิสระ เคลื่อนไหวได้เป็นอิสระ ไปได้ทุกที่ดังใจอยาก เป็นอิสระจากความปรารถนา เป็นอิสระที่จะได้เห็นว่าจักรวาลเป็นเช่นไร
ว่างเปล่า -
เราทำได้แล้ว...มันจบแล้ว….สุดท้ายมันก็จบลง...พ่อข้า ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนข้าก็สัมผัสเขาได้ เขาไปสู่สุคติแล้ว ขอบใจเจ้ามาก เจ้าคนพลัดถิ่น
Arcana มันใช้งานได้! และข้าไม่เป็นกังวลเลยสักนิด! ถึงแม้ Elder และ Decay จะถูกขับไล่ออกไปได้ทั้งคู่ แต่การเผชิญหน้ากับมัน....เปลี่ยนข้าไป ข้ารู้สึกว่าเจ้าพวกนั้นกำลังดิ้นรนอยู่ระหว่างมิติของเรา มันสิ้นหวัง หิวโหย จนต้องหาทางกลับเข้ามา
ข้าไม่คิดว่าจะได้หลับเต็มอิ่มไปอีกพักใหญ่ ข้าต้องเตรียมตัวพวกเราให้พร้อมเผื่อพวกมันกลับมา บางทีข้าอาจจะตั้ง Watcher of Decay กลับมารักษาโลกเราใหม่...ที่นี่ แผนที่แอตลาสนี่เป็นของ Elder หากเราศึกษาเพิ่มเราอาจจะได้รู้ธรรมชาติที่แท้จริงของ Decay หากเจ้าต้องการ เจ้าสามารถเข้ามาศึกษาและสำรวจโลกพวกนี้กับข้าก็ได้ บางทีเจ้าอาจจะทำสิ่งดีๆ ได้บ้างที่นี่ เพราะเหยื่อของ Elder - เด็กๆ พวกนั้น...น่าจะมีอยู่เป็นพันๆ เดินเตร่ไปในดินแดนนี้ในสภาพบิดเบี้ยวน่าเวทนา อาจจะตื่นกลัวด้วยซ้ำ พวกเขาต้องการการปลดปล่อยเช่นเดียวกับพ่อข้า หากจัดการพวกเขาได้ก็จะเป็นความกรุณา เจ้าอาจจะเป็นคำตอบให้กับพวกเขาได้นะเพื่อนข้า
ตอนนี้ข้าต้องไปแล้ว ต้องเตรียมตัวสำหรับการสำรวจครั้งต่อไป